ตอนที่ 06 : อัศวินแมว
“ที่นี่มันที่ไหนกัน?”
อาร์คกวาดตามองไปรอบๆ
แต่เขากลับเห็นเพียงความมืดสนิทที่มองไม่เห็นแม้กระทั่งนิ้วของตัวเอง
“ถ้าเราวาร์ปมา มันก็ไม่น่าไกลเท่าไหร่...”
ระยะทางที่สามารถวาร์ปเคลื่อนที่นั้นจำกัดแค่
200 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่สามารถกำหนดสถานที่ได้
มันทำได้เพียงแค่สุ่มย้ายไปทุกที่ในบริเวณใกล้เคียง ยังไงก็ตาม
เหตุผลที่ทำให้มันจัดเป็นเวทย์ขั้นสูงก็เพราะว่าเมื่อนักเวทย์จะใช้วาร์ป
พวกเขาต้องใช้พลังจำนวนมหาศาล
มีหลายครั้งที่นักเวทย์ใช้มันเมื่อไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้
พวกเขาจะร่ายคาถาเพื่อใช้วาร์ปด้วยการร่ายคาถาแบบสั้นๆ
ก็จะทำให้เคลื่อนย้ายระยะทางได้ไม่มากแม้ว่าจะไม่สามารถกำหนดจุดหมายได้
แต่มันก็เป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับการต่อสู้อยู่ด้านหลังของพวกนักสู้
‘ยังไงก็แล้วแต่...ดูเหมือนที่ฉันรอดมาได้คงต้องขอบคุณพวกเขาที่วาร์ปส่งฉันออกมาสินะ’
อาร์คเดินเปะปะควานไปรอบๆ
ในความมืดก่อนจะพบฮาเวสไตน์ที่ทรุดตัวนอนอยู่บนพื้น
“ไวเคานต์ คุณเป็นยังไงบ้าง!?”
ฮาเวสไตน์ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรง
“โอ้...อาร์ค เจ้ายังรอดชีวิต โล่งอกไปที” เขาพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“มีสติหน่อยสิ! คุณจะอ่อนแอไม่ได้
ไม่ใช่ว่าคุณต้องการแก้แค้นแทนพ่อของคุณหรอกเหรอ?”
“ผิดแล้ว...ถึงแม้ว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า...ที่บอกให้เข้มแข็ง...แต่ข้าก็ไม่อาจพาพวกเขาออกมา...บรรดาทหารที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะข้า...อย่าว่าแต่แก้แค้นให้พ่อของข้าเลย...แม้แต่บุตรชายของข้า...ก็มิอาจปกป้องเอาไว้ได้...ช่างน่าสงสารนัก...แค่กๆ”
ฮาเวสไตน์ไอจนตัวโยนพลางอาเจียนออกมาเป็นเลือด
ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จับสร้อยเงินแล้วกระชากมันออกมามอบให้แก่อาร์ค
“อาร์ค...ลูกชายของข้าน่ะแข็งแกร่งนะ...ไม่ต้องสงสัยเลย
เขาจะต้องเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง...ช่วยบอกกับเด็กคนนั้นที...ข้าเสียใจที่ไม่อาจปกป้องเจ้าได้...และยิ่งเสียใจที่มิอาจปกป้องลูกชายเช่นเดียวกัน...ช่วยบอกเขา...เจ้าสัญญากับข้าได้หรือไม่...สัญญาว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดและบอกกับเขา...”
“ผม...เข้าใจแล้ว” อาร์คกล่าวตกลงเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของคนตรงหน้า
“ขอบใจนะ...”
แขนของฮาไวสไตน์ที่สั่นเทาค่อยๆ
ตกห้อยลงมาอย่างสงบ ร่างของเขาเริ่มโปร่งใสอย่างช้าๆ
อาร์คกัดฟันเบาๆ
เมื่อเห็นร่างกายที่ค่อยๆ จางหายไป
ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่และก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้เขาได้รับรู้ถึงความเป็นจริงว่า NPC เหล่านี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่ในใจของก็รู้สึกโศกเศร้าอยู่ดี
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น NPC แต่เขาก็เป็นคนที่อาร์คคอยดูแลมาตลอดทาง
ชายหนุ่มคอยรักษาพยาบาลเขาอย่างจริงใจ พอเห็นคนๆ นั้นหายไปต่อหน้าต่อตา
น้ำตาของเขาก็เอ่อไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
จากนั้นเสียงกลองก็ดังรัวขึ้นในหูของเขา
คุณได้รับสร้อยคอสีเงินเปื้อนเลือดของไวเคานต์ฮาเวสไตน์
|
‘อา...ใช่แล้ว นี่มันบ้าชัดๆ
ถ้าฮาเวสไตน์ตายเควสต์เราก็จบไม่ใช่หรือไง?’
มันจบลงด้วยความล้มเหลวหลังจากเขาต้องทนลำบากมามากมาย...แต่การระเบิดอารมณ์โกรธออกมาในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด
คนที่ตายนั้นไม่สามารถหายไปเลยได้
ดังนั้น NPC ก็ต้องเป็นแบบเดียวกัน
มีเพียงจุดเดียวที่แตกต่างจากความเป็นจริงคือเมื่อ NPC ได้ตายลงไป ก็ต้องมีคนที่มารับบทบาทนั้นในสถานที่เดียวกันแทน
ไม่สิ...ในความเป็นจริงก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน?
ในขณะที่อาร์คกำลังคิดอยู่นั้น
หน้าต่างเควสต์ก็เปิดขึ้นมา
อาร์คเบิกตากว้างเมื่อเห็นข้อความที่ปรากกฎขึ้น “ โอ้ว...นี่มันอะไรกันเนี่ย?”
เควสต์มีการอัพเดต
ความลับของกระดานชนวน III " ส่งมอบของที่ระลึกให้กับลูกชายของไวเคานต์ฮาเวสไตน์
ไวเคานต์ฮาเวสไตน์ได้ตายลงแล้ว
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่คุณก็ต้องยอมรับความจริง อย่างไรก็ตามเขาได้ทิ้งคำสั่งเสียไว้ที่คุณซึ่งเป็นคนที่เขาไว้วางใจให้ส่งมอบของที่ระลึกให้แก่ลูกชายของเขา
ตามที่เขาได้ร้องขอเอาไว้
คุณต้องหลีกเลี่ยงอันตรายและส่งมอบของที่ระลึกให้แต่ลูกชายของเขาซึ่งอยู่ที่ปราสาท
ข้อควรระวัง; ถ้าคุณตายในขณะที่เริ่มเควสต์นี้ ของที่ระลึกจะหายไปและคุณจะล้มเหลวในเควสต์นี้เช่นกัน
ในกรณีที่เควสต์ล้มเหลวคุณจะได้รับบทลงโทษจากไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับเควสต์นี้จึงควรระมัดระมัดเป็นอย่างมาก
ระดับความยาก: +E
|
น่าแปลกมากที่เควสต์นั้นยังไม่ได้จบลง
‘เดี๋ยวสิ...เควสต์ทั้งหมดของฉันมันไม่ได้บอกว่าต้องฆ่าเดบราซะหน่อยนี่’
โลกใหม่เป็นเกมที่ให้อิสระแก่ผู้เล่นเป็นอย่างมาก
การทำเควสต์ก็เช่นเดียวกัน
มันก็เหมือนกับการขอเข้าไปในโบราณสถานโดยใช้วิธีน่ารำคาญจนทำให้ฮาเวสไตน์ต้องยอมตกลง
เป้าหมายของเควสต์จึงมีการปรับเปลี่ยนไปตามการตัดสินใจของผู้เล่น
ถ้าหากเดบราพ่ายแพ้หลังจากนั้นอาร์คก็จะได้รับของรางวัลตอบแทนมันก็จะจบลงเช่นเดียวกัน
แม้ในกรณีที่เดบราชนะก็ตาม เขาก็ยังมีทางออกแบบอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย
‘ใช่แล้ว...เป้าหมายของฉันแค่หาความลับภายในโบราณสถาน
และผลของมันก็ทำให้ฉันเข้าไปเจอกับเดบราซึ่งนั่นก็พอแล้วที่จะทำให้เควสต์สำเร็จ
ส่วนที่กำลังเจออยู่นี่คงเป็นเพราะเควสต์ย่อยที่เกี่ยวข้องกันสินะ’
นี่คงเป็นภารกิจที่สามารถรับได้เมื่อมีระดับค่าความสนิทสนมกับไวเคานต์ฮาเวสไตน์สูงพอ
“ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว
แต่ว่าชั้นจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดี? พวกเขาบังคับไม่ให้ฉันใช้ทริคซะด้วย...” อาร์คพึมพำด้วยเสียงเบื่อหน่าย
ไม่ว่าจะเป็นทางไหน
การจะออกจากซากโบราณสถานแห่งนี้ด้วยตัวเองเพียงลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไป
ดังนั้นแล้วเมื่ออาร์คอ่านคำอธิบายในตอนแรกเขาก็เลยคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเมื่อผู้เล่นตายเขาก็จะปรากฏตัวยังจุดที่ได้บันทึกไว้
และสถานที่สุดท้ายที่เขาได้บันทึกไว้ก็คือปราสาทแจ็คสัน
ถึงแม้ว่าค่าสถานะของเขาจะถูกหักไป เขาก็ควรจะใช้เวลานี้ในการคืนค่าสถานะที่เหลือ
ถ้าสิ่งที่เขาต้องทำคือการคืนค่าสถานะแล้วกลับมาทำเควสต์ต่อได้
เขาก็จะสำเร็จเควสต์ความยากในระดับ +E แต่เพราะหมายเหตุด้านล่างของเควสต์มันเลยทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย
เมื่อเขาคิดว่าจะยอมแพ้ในเควสต์นี้
อาร์คก็ได้แต่สั่นหัวไล่ความคิดนั้นไป
มันเป็นเควสต์ต่อเนื่องหลายครั้งมาก
ใครจะรู้ว่าสิ่งตอบแทนจะมีค่ามากมายขนาดไหน นอกจากนี้แล้วก็ยังมีความรู้สึกของเขาที่ทำให้ตัดสินใจได้ยากเย็นเข้าไปอีก
ถ้าเป็นไปได้
เขาก็อยากจะทำตามคำขอสุดท้ายของฮาเวสไตน์
‘เขาเป็น NPC ที่ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นมากมายซักเท่าไหร่
ดังนั้นแล้วฉันควรจะพยายามช่วยเขาเท่าที่จะทำได้ บทลงโทษจากไอเท็มที่ว่าคงจะทำให้ฉันกังวลจนเกินไป’
อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่รู้ข้อมูลง่ายๆ
บางอย่างในหมู่บ้านฮารันมันเลยทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก
ดังนั้นแล้วถ้ามีอะไรที่น่าสงสัยเขาก็ควรจะระวังมันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า
‘แล้วทีนี้ฉันต้องไปที่ไหนต่อ? ถ้าดูจากข้อมูลในเควสต์ที่ให้มา มันน่าจะมีทางออกจากที่นี่แน่ๆ
แต่ก็นะ...ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ฉันพอจะทำได้เลยซักอย่าง คงได้แต่ลองเดินมั่วๆ
ดูล่ะนะ’
อาร์คใช้มือข้างหนึ่งแตะที่ผนังก่อนจะเริ่มเดินในความมืดต่อไป
การเดินเลียบตามผนังหรือกำแพงไปแบบนี้
เป็นวิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้เขาสามารถออกจากเขาวงกตแห่งนี้ได้
ชายหนุ่มเดินไปตามทางเดินเส้นเล็กๆ
ซึ่งตัดผ่านด้านหนึ่งของพื้นที่รูปวงกลม
เมื่อเขาเดินไปจนสุดทางก็พบพื้นที่กว้างขวางขนาดใหญ่อีกครั้ง
เมื่อเขาได้พบพื้นที่ลักษณะแบบเดียวกันนี้สามครั้ง
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในความมืด
อาร์คที่กำลังเดินไปข้างหน้าชะงักกึกเมื่อมองเห็นประกายแสงสีแดงที่อยู่ด้านหน้าเขา
คุณถูกโจมตี
พลังชีวิต -5
|
‘ศัตรูงั้นเหรอ!’
อาร์คชักดาบของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงสวบสาบเหมือนกับตอนที่อยู่ในถ้ำ เสียงนั้นบ่งบอกว่าเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งหรือสอง
แค่ชั่วระยะเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ พวกมันก็พุ่งกระโจนเข้าใส่เขาทันที
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับค่าเสียหายรุนแรงนัก แต่ค่าพลังชีวิตก็ลดลงเรื่อยๆ
อย่างต่อเนื่อง
ถ้าศัตรูพวกนี้สามารถลดพลังชีวิตของเขาได้อย่างรวดเร็วทีละ
5 จุด แล้วมีจำนวนประมาณร้อยตัวเป็นอย่างน้อย ความเสียหายก็จะทวีคูณเพิ่มมากขึ้น
ถึงแม้ว่าศัตรูของเขาอาจจะเป็นหนูแต่มันก็เป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก
ในขณะที่ค่าพลังชีวิตของเขาลดลงไปถึงครึ่ง อาร์คก็เงยหน้าตะโกนเรียกใช้สกิลทันที
“จิตวิญญาณแห่งแมว!”
เมี๊ยวววววววววววววว!
เสียงร้องแหลมดังก้องไปทั่วถ้ำ
แต่มันก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีต่อเนื่องนี้ได้
‘พวกมันติดสถานะรึเปล่าเนี่ย?’
อาร์คยกดาบขึ้นมาเตรียมจัดการกับพวกมันอย่างรวดเร็ว
ทว่าพริบตานั้นดวงตาสีเหลืองนับร้อยคู่ก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าเขา นัยน์ตากระหายเลือดนั้นส่องประกายแวววับ
บรรยากาศในถ้ำเริ่มหนาวเย็นขึ้นทุกขณะ
'บ้าเอ๊ย! พวกมันไม่ได้เป็นอัมพาต
มันล้มเหลวงั้นเหรอ?'
ทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวระดับกลางนั้นสามารถทำให้หนูเป็นอัมพาตถึง 100 เปอร์เซ็น แต่เมื่อใช้กับมอนสเตอร์ที่มีขนาดเล็กนั้นมีโอกาสล้มเหลวถึง 50 เปอร์เซ็น นั่นหมายความว่ามันมีโอกาส 50/50 แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นโชคร้ายเมื่อสกิลนั้นไม่ทำงาน
นอกจากนี้การเรียกใช้สกิลจิตวิญญาณแห่งแมวระดับกลางนี้ต้องใช้มานาถึง 100 จุด ถ้าเขาใช้มันครั้งหนึ่งจะใช้อีกไม่ได้ภายใน 10 นาทีจนกว่ามานาของเขาจะฟื้นฟูกลับมาเต็มอีกครั้งหนึ่ง
ในขณะที่อาร์คกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย
นัยน์ตาของเขาเริ่มพร่าเลือนและเริ่มปิดลงอย่างช้าๆ
ซึ่งเป็นผลจากพลังชีวิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหว
"หยุดเดี๋ยวนี้! เขาไม่ใช่ศัตรู"
ในตอนนั้นเองการจู่โจมที่แสนอันตรายนั้นก็อันตรธานหายไปราวกับว่าเขาแค่ฝันไป
แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะเห็นดวงตาสีเหลืองของฝ่ายตรงข้าม
แต่อาร์คก็คิดว่าอาจเป็นเพราะความมืดเลยทำให้เขาตาฝาดมองเห็นอะไรไม่ชัด
แต่แล้วพวกมันก็ปรากฏตัวออกมาจากในความมืดนั้น
“นี่มัน...แมว?”
สิ่งที่อยู่รอบๆ
ตัวของอาร์คคือฝูงแมวประมาณร้อยกว่าตัว
แมวทุกสายพันธุ์ที่ในชีวิตนี้เขาอาจจะได้เห็นมันจากหนังสือเท่านั้น
แม้แต่แมวบางชนิดที่เขาไม่เคยได้ยินถึงการรวมสายพันธุ์ของพวกมันมาก่อนนั่นก็ด้วย
“อื้ม...เจ้าใช้ทักษะแมวนั่นได้ยังไง?”
เสียงนั้นดังมาจากทางด้านหน้าของเขา
อาร์ครีบหันหน้าไปมองแต่กลับพบผู้หญิงคนหนึ่งที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วใช้จมูกดมกลิ่นของเขา
ทำให้อาร์คที่หันหน้ากลับมาถึงกับสะดุ้งตกใจเป็นอย่างมาก
‘ผู้หญิงเหรอ? แต่หูกับหางนั่นล่ะ?’
เมื่ออาร์คสังเกตร่างของคนตรงหน้าชัดๆ
ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น
ลักษณะของคนที่กำลังใช้จมูกตรวจสอบเขานั้นเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย
ใบหน้าที่สวยใสน่ารักและรูปร่างทรวดทรงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดเสื้อผ้าหนังฟิตเปรี๊ยะนั้นทำให้เธอดูยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน
แต่ที่สะดุดตาคือหูแหลมที่ติดอยู่บนหัวของเธอและบริเวณใกล้ๆ
บั้นท้ายก็มีหางยาวที่แกว่งไปมาเบาๆ
เธอเหมือนผู้หญิงใส่ชุดแมวที่บางครั้งก็ปรากฏในนิตยสารของผู้ใหญ่
ในขณะที่หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าไปจนทั่วทั้งตัวแล้ว
เธอก็เปิดปากพูดกับเขา
“ข้าเจน่า แล้วเจ้าล่ะ?
“อ่อ? ผะ...ผมชื่ออาร์ค”
“ข้าแค่ถามเฉยๆ
น่า...ว่าแต่เจ้าเป็นมนุษย์ใช่มั้ย?”
เมื่ออาร์คพยักหน้าด้วยสีหน้างุนงง
เจน่าก็หันรีหันขวางมองไปรอบๆ “ข้าไม่รู้ว่ามนุษย์อย่างเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง...เอาเถอะ
ตามข้ามาแล้วกัน”
ชายหนุ่มไม่รู้ต้องทำตัวยังไงเลยได้แต่ทำตัวเฉยๆ
ตามปกติพลางมองไปรอบๆ อย่างเหม่อลอย
'แต่ว่านะ...ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่คิดว่าเราเป็นศัตรูแล้วแฮะ'
สุดท้ายอาร์คก็เก็บดาบของเขาลงและเดินตามผู้หญิงที่มีหางคนนั้นไป
ส่วนฝูงแมวก็เดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ ตัวเขาอย่างใกล้ชิด
สายตาของพวกมันที่มองเขาเหมือนเป็นสิ่งของที่พวกมันต้องคุ้มครองหรือไม่ก็เป็นเป็นนักโทษที่ต้องคอยคุมตัว
ทำให้ความเครียดในตอนแรกนั้นหายไปหมดจนถึงขนาดอดหัวเราะออกมาไม่ได้
หลังจากที่เดินมาราวๆ 30 นาที เขาก็มาถึงพื้นที่ซึ่งมีแสงสลัวๆ
ส่องลงมาพอให้เห็นรายละเอียดของบริเวณนั้นๆ
อาร์คเห็นคนที่มีลักษณะคล้ายกับเจน่าประมาณ 15 คนยืนรวมอยู่กลางพื้นที่ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยแมวนับร้อยตัว
ตรงจุดที่เป็นศูนย์กลางนั้นมีร่างใหญ่โตของผู้อาวุโสนั่งอยู่ตรงกลาง
ร่างกายที่ใหญ่โตนั้นไม่ได้หมายความว่าเขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ
แต่หมายถึงมีรูปร่างที่พองกลมราวกับบอลลูนที่ใช้โฆษณาต่างหาก
แน่นอนว่ารวมไปถึงหูกับหางที่ติดอยู่กับตัวเขาด้วย
‘นี่มันบ้าอะไรเนี่ย! เมืองคอสเพลย์งั้นเหรอ? หรือว่าอะไรกันแน่?’
ในโลกใหม่นี้
ผู้เล่นสามารถเลือกใช้เผ่าพันธุ์ของสัตว์ได้เช่นกัน
แต่ว่าโดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเลือกเผ่าหมาป่าเป็นหลัก เขายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครเลือกเล่นเผ่าแมวมาก่อน
ขณะนั้นเองเจน่าก็เดินเข้าไปหาผู้อาวุโสและกระซิบอะไรบางอย่าง
ผู้อาวุโสที่เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากเจน่าก็หันมาพูดกับอาร์คด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย
“มาหาข้าสิเจ้าคนแปลกหน้า
ข้าคือหัวหน้าของเผ่าแมว คนที่นี่เรียกข้าว่า ฮัสซาน
จริงรึเปล่าที่เจ้าสามารถใช้ทักษะของแมวได้?”
“ทักษะของแมวงั้นเหรอ?”
“มันเป็นจิตวิญญาณแข็งแกร่งของแมวที่ใช้สะกดหนูพวกนั้น”
‘อ้อ...ดูเหมือนเธอจะพูดถึงทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวสินะ’ อาร์คคิดในใจก่อนจะตอบคำถาม
“ใช่แล้วผมใช้มันได้ ว่าแต่มีปัญหาอะไรรึเปล่า?” น้ำเสียงของเขากระด้างเล็กน้อย
เขาได้รับบาดเจ็บเพราะเดบรา
ส่วนฮาเวสไตน์ก็เสียชีวิตแล้วเขาก็ต้องดิ้นรนพยายามอยู่ภายในถ้ำโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เขาก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่เกมก็ตาม
ดังนั้นสำหรับอาร์คแล้วไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องหาคำดีๆ
มาพูดกับผู้อาวุโสร่างอวบนี่เลย
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าฮัสซานจะไม่สนใจเท่าใดนัก
เขาเริ่มพูดกับอาร์คอีกครั้ง
“เจ้าเรียนทักษะนี้มาจากที่ไหน?”
“ผมเรียนมันหลังจากได้รับฉายาพิเศษ” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ
“ฉายา? ฉายาอะไรงั้นรึ?”
“มันเป็นฉายาที่เรียกว่า จ้าวแห่งหนู”
“จ้าวแห่งหนูงั้นเหรอ!”
ฮัสซานเบิกตากว้าง
หูและหางของเธอตั้งชันขึ้น ราวกับเป็นภาพของแมวอ้วนที่กำลังตกใจถึงขีดสุด
แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งมนุษย์แมวและแมวที่ยืนรอบตัวเขาต่างพากันมองตาค้างหลังจากได้ยินคำพูดของอาร์คเช่นเดียวกัน
"นับตั้งแต่ในอดีต
ฉายาจ้าวแห่งหนูนั้นจะมอบให้แก่ผู้กล้าหาญที่สังหารปีศาจหนู Black
Bear Mouse ได้เท่านั้น
และเผ่าพันธุ์ของปีศาจตนนี้ก็ได้สูญหายไปจนหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ลูกน้องคนสนิทของเดบรา
แล้วเจ้าที่บอกว่าได้ฉายาจ้าวแห่งหนูนี้มา
หมายความว่าเจ้าฆ่าลูกน้องคนสนิทของเดบราได้อย่างนั้นเหรอ?" ฮัสซานดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของมนุษย์ตรงหน้าสักเท่าไหร่
"ลูกน้องคนสนิทของเดบรา? เรื่องนั้นผมไม่รู้หรอก แต่ที่แน่ๆ คือผมฆ่าปีศาจหนูก็เท่านั้น"
"เจ้าพูดความจริงใช่มั้ย? เจ้าคงไม่ได้เจอของสิ่งนั้นโดยบังเอิญหรอกนะ?"
"คุณหมายถึงสิ่งนี้งั้นเหรอ?" อาร์คหยิบกระดานชนวนออกมาโดยไม่ต้องคิดมาก
มันเป็นไอเท็มที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้เปิดประตูสู่ห้องของเดบรา
แต่ทันทีที่ฮัสซานเห็นกระดานชนวนชิ้นนี้เขากลับตกตะลึงเป็นอย่างมาก
ร่างอวบอ้วนของเธอถึงกับวิ่งตรงเข้ามากอดลูบหัวลูบหางอาร์คอย่างยินดี
"เจ้ามาแล้ว...ในที่สุดเจ้าก็มา!
ข้ารู้ว่าท่านต้องมาทรูธซีคเกอร์!"
ฮัสซานเอ่ยขึ้นด้วยนำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด
"คุณพูดว่าอะไรนะ? นั่นมันไม่ใช่แล้ว...อะไรคือทรูธซีคเกอร์?"
อาร์คพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด
เขาไม่ได้เป็นผู้ชายที่มีความสุขกับการที่ถูกผู้สูงวัยเข้ามาจู่โจมด้วยร่างกายอ้วนกลมแบบนั้นหรอกนะ
ชายหนุ่มผลักคนที่กอดตัวเองออกไป
ฮัสซานเลยได้แต่ทำท่าเกาหัวด้วยท่าทางเหนียมอายเล็กน้อย
"อ่า...ข้าตื่นเต้นไปหน่อยเลยทำตัวไม่มีมารยาทไปซักนิด
ใช่แล้ว...ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ท่านอาจจะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้
แต่ไม่เป็นไร ข้าจะอธิบายให้ท่านฟังเอง"
ฮัสซานกลับมานั่งที่เก้าอี้ของเขาอีกครั้งหนึ่งแล้วเริ่มพูดต่อ
"ตามที่เจ้าได้เห็น พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์แห่งเมบัน
พวกเราทำงานให้แก่แมวนักปราชญ์และได้รับการยกย่องในเผ่าพันธุ์เป็นอย่างมาก
แต่เดิมนั้นโบราณสถานแห่งนี้นับเป็นวิหารที่ทำพิธีกรรมของพวกเรา
แต่เมื่อเดบราได้ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับพาเหล่าสัตว์ประหลาดมา
พวกมันก็ยึดสถานที่แห่งนี้ไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังหวาดกลัวต่อความแข็งแกร่งของเรา
เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นเลยขังพวกเราไว้ที่นี่ยังไงล่ะ"
"ขัง? พวกคุณถูกขังไว้ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?" อาร์คถามด้วยสีหน้างุนงง ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าที่นี่เป็นคุก? สถานที่ที่นักเวทย์พวกนั้นวาร์ปส่งเขามาสมควรเป็นคุกอย่างนั้นเหรอ?
นั่นคงไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีทางออกใช่มั้ย???
ขณะที่อาร์คกำลังช็อค
ฮัสซานก็เริ่มพูดต่ออีกครั้ง
"เพื่อความปลอดภัย
เดบรากลัวว่าพวกเราจะหนีออกจากคุกเขาจึงมอบหมายกุญแจให้่ลูกน้องของเขาไป และปิดผนึกมันไว้ในสถานที่อันห่างไกล"
ตอนนั้นเอง
อาร์คที่ยืนช็อคอยู่เริ่มดึงสติหันมาสนใจคำพูดของฮัสซานอีกครั้ง
"กุญแจ? นั่นคงหมายถึงกระดานชนวน..."
อาร์คยังคงจำได้ กระดานชนวนอันนั้นใช้ในการเปิดห้องของเดบรา
ถ้าอย่างนั้นบางทีสิ่งนั้นอาจเป็นกุญแจที่พวกเขาพูดถึง
ขณะที่อาร์คกำลังพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว
ฮัสซานก็กล่าวเสริมความคิดของอาร์คโดยไม่รู้ตัว
"ใข่แล้ว...กระดานชนวนอันนั้นเป็นกุญแจเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้เปิดประตูทุกบานในวิหารแห่งนี้
และปีศาจหนู Black Bear Mouse ที่พ่ายแพ้ต่อเจ้าก็เป็นลูกน้องของเดบราที่เอากุญแจหนีไป"
ใบหน้าของอาร์คดูโล่งใจมากขึ้น
ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าตอนนี้เขาไม่มีปัญหาในการที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้เลยซักนิด
"ผมเข้าใจสถานการณ์แล้ว
แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ"
"ท่านหมายความว่ายังไงรึ?"
"ผมได้ต่อสู้กับเดบราไปครั้งหนึ่ง
มันคล้ายกับเป็นอมตะและยังดูแข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผล
แต่คนแบบนั้นกลับกลัวความแข็งแกร่งของพวกคุณและขังเอาไว้ที่นี่
อีกทั้งยังหาวิธีปิดผนึกโดยการเอากุญแจไปซ่อนในที่ห่างไกลนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่เข้าใจเลย?"
ฮัสซานทำหน้าภาคภูมิใจเมื่อได้ยินคำพูดของอาร์ค
"นั่นเป็นเพราะพวกเราเป็นลูกหลานของวีรบุรุษแห่งเมบันยังไงล่ะ?"
"วีรบุรุษแห่งเมบัน?"
"อ้าว...เจ้าไม่รู้อย่างนั้นรึ?" ใบหน้าของผู้อาวุโสเผ่าแมวเผลอแสดงความผิดหวังขึ้นมาแวบหนึ่ง
"วีรบุรุษแห่งเมบันทั้ง 7 คนได้ปกป้องผืนแผ่นดินให้พ้นจากวิกฤตการณ์อันโหดร้าย ซึ่งหมายความว่าพวกเขานั้นเป็นหนึ่งในนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน
และพวกเราก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายของวีรบุรุษแห่งเมบันนั้นมา
แต่นั่นไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เดบรานั้นกลัวพวกเรา..."
ใบหน้าของฮัสซานเริ่มคล้ำลงและเริ่มแยกเขี้ยวเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องของเดบรา
"นานมาแล้ว
มีนักรบที่ให้ความเคารพนับถือและสานต่อเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบัน
พวกเราเผ่าแมวต่างเรียกคนเหล่านั้นว่า ทรูธซีคเกอร์ (Truthseeker) พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบชักนำผู้คนไปในทางที่ถูกต้อง
แต่ว่าการจะเป็นทรูธซีคเกอร์นั้นจะต้องผ่านการทดสอบด่านแรกให้ได้เสียก่อน"
"การทดสอบด่านแรก?"
"ถูกต้อง...วีรบุรุษแห่งเมบันนั้นเป็นผู้กล้าที่เผ่าแมวเคารพนับถือ
การที่จะทดสอบคุณสมบัติของคนที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรบุรุษเหล่านั้นจะต้องได้รับการทดสอบจากเผ่าแมวเป็นขั้นตอนแรก
และการทดสอบนั้นคือจะต้องฆ่าศัตรูของเผ่าแมวซึ่งมันก็คือหนูอย่างน้อยหนึ่งหมื่นตัว
และนั่นก็ถือเป็นขั้นตอนแรกสู่การเป็นทรูธซีคเกอร์”
“หนูหมื่นตัว!”
นั่นเป็นงานที่ได้จากเควสต์ในหมู่บ้านฮารันที่เขาทำจนเสร็จนี่? แต่เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่ามันจะเป็นเส้นทางสู่การเป็นทรูธซีคเกอร์
“แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นการทดสอบทั้งหมดหรอกนะ
การจะได้ยอมรับในฐานะทรูธซีคเกอร์ที่แท้จริงนั้นต้องโค่นสิ่งที่เป็นศัตรูที่ร้ายกาจยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าแมวซึ่งก็คือ
ปีศาจหนู Black Bear Mouse ให้ได้เสียก่อน
ด้วยการกระทำแบบนั้นเจ้าจึงถือว่าเป็นพันธมิตรกับเผ่าแมว
จิตใจที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังที่มีต่อหนูทำให้เจ้าได้รับคุณสมบัติในการเป็นทรูธซีคเกอร์
นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเจ้าถึงมีความสามารถในการเรียนทักษะของเผ่าแมวยังไงล่ะ” ฮัสซานพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ตอนแรกนั้นมนุษย์แมวและบรรดาแมวต่างให้ความสนใจในตัวเขาด้วยสายตาเป็นประกาย
แต่พวกเขาก็รู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็วจนเริ่มบิดขี้เกียจและหาวออกมาตามใจตัวเอง
ซึ่งมันก็ทำให้เห็นว่าพวกแมวนั้นเข้าใจคำที่ว่า “ทำตามใจตัวเอง”แค่ไหน
ยังไงก็ตามอาร์คเริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างคร่าวๆ แล้ว
“นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ข้ารู้ว่า
ทรูธซีคเกอร์ เช่นเจ้าจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเราสักวันหนึ่ง ตั้งแต่ปีศาจหนู Black
Bear Mouse ยังมีชีวิตอยู่ในโลกภายนอกนั่นแล้วมันจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากลูกน้องคนสนิทของเดบรา”
เมื่อฮัสซานพูดจบ
หน้าต่างข้อมูลก็กระเด้งขึ้นมา
ดือ-ดือ-ดึ้ง!
คุณได้แก้ไขปัญหาความลึกลับของกระดานชนวนปริศนาได้สำเร็จ
Intelligence เพิ่มขึ้น 10 จุด
ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 100 แต้ม
คุณได้รับค่าสถานะใหม่
ความรู้เรื่องวัตถุโบราณ (+10) : ความรู้ใหม่ของการวิจัยวัตถุโบราณอยู่ในกำมือของคุณแล้ว
โลกใหม่เป็นดินแดนที่มีตำนานและความลับมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ
การเก็บรวบรวมวัตถุโบราณนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณสามารถค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ในโลกนี้อีกทางหนึ่ง
ความรู้ในด้านนี้จะช่วยให้คุณสามารถค้นพบเควสต์ย่อยเมื่อได้รับความไว้วางใจซึ่งอยู่กับสถานการณ์ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับรางวัลมากขึ้น
ค่าสถานะนี้จะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้
ถ้าหากคุณไม่พบวัตถุโบราณหรือค้นพบความลับที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น
ซึ่งจะทำให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นได้
|
‘โอ้ว…มีโบนัสนี้แบบนี้ด้วยเหรอ?’
อาร์คหุบปากที่อ้าค้างลง
เพราะเมื่อเขาคิดถึงอาชีพที่เกี่ยวกับการต่อสู้ ค่าโบนัสสถานะ Intelligence นี้ก็ไม่มีความจำเป็นกับเขาเลยสักนิด
แต่มันก็ไม่ได้ว่างเปล่าซะทีเดียวเลยใช่มั้ย? ตามที่เห็นในข้อความเขายังได้รับค่าชื่อเสียงมา
มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองบินได้แล้วก็มีความสุขมากๆ
แต่ข้อความก็ยังไม่จบลงที่ตรงนั้น
คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบรรพบุรุษของเผ่าแมว
วีรบุรุษแห่งเมบัน
ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นขั้นตอนแรกสู่การเป็น
ทรูธซีคเกอร์ เพื่อเดินตามรอยเท้าของนักรบในตำนานวีรบุรุษแห่งเมบัน
คุณสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็น ดาร์ค วอล์คเกอร์ (Dark
Walker) ซึ่งเป็นอาชีพเฉพาะของ ทรูธซีคเกอร์ (TruthSeeker)
หากคุณเปลี่ยนอาชีพ
คุณจะได้เรียนรู้ทักษะที่แท้จริงของ ดาร์ค วอล์คเกอร์
นอกจากนี้มันยังเป็นอาชีพที่มีลักษณะพิเศษ
ทำให้อาจมีบางทักษะที่คุณไม่สามารถเรียนร่วมกันได้
คุณต้องการจะเปลี่ยนอาชีพหรือไม่?
|
'มันเป็นอาชีพที่ได้จากเควสต์ความลับของกระดานชนวน!'
หัวใจของอาร์คเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง
นี่เป็นอาชีพลับที่ซ่อนอยู่ซึ่งเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน
ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมออนไลน์มาหลายเกมจนถึงตอนนี้
แต่สำหรับเขาแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ได้อาชีพลับแบบนี้
ส่วนใหญ่แล้วอาชีพลับที่ซ่อนอยู่มักจะให้ค่าสถานะสูงกว่าอาชีพทั่วๆ
ไป เพื่อมอบให้เป็นการทดแทนกับความยากลำบากในการค้นหามัน
นี่เป็นสิ่งตอบแทนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีทักษะเฉพาะของอาชีพซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นถึงไม่ยอมลงข้อมูลอาชีพลับที่ซ่อนอยู่ในฟอรั่มแม้แต่น้อย
ถึงแม้พวกเขาจะมีความโลภอยากครอบครองข้อมูลที่มากกว่านั้นไว้คนเดียว
แต่เหตุผลพวกเขาพยายามซ่อนเอาไว้ยิ่งกว่าก็คือทักษะเฉพาะของอาชีพลับ
เมื่อผู้เล่นต่อสู้กับคนอื่นๆ ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ถึงฝีมือของอีกฝ่าย
มันก็จะช่วยให้พวกเขาชนะคนอื่นได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก
'นี่เป็นโอกาสที่เหลือเชื่อมาก!'
เขารู้สึกตื่นเต้นไปซะทุกอย่าง
แต่แล้วพอจิตใจเริ่มสงบลงอาร์คก็เกิดความลังเลเล็กน้อย
ถ้าเขาคิดให้รอบคอบ
มันก็ไม่ได้มีแต่สิ่งดีไปทั้งหมด
อาชีพลับนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพเฉพาะ
จึงมีโอกาสที่การเรียนรู้ทักษะจะขาดความสมดุลโอนเอียงไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง
ถ้าคนที่อยากเป็นนักเวทย์เขาก็ต้องหาอาชีพลับของนักเวทย์ที่ซ่อนอยู่
แล้วพวกเขาได้รับพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาล
แต่ถ้าหากผู้เล่นสายนักรบเกิดไปได้อาชีพนักเวทย์ที่ซ่อนอยู่
มันจะไม่ได้เป็นแค่สถานการณ์เลวร้ายเท่านั้น แต่ในที่สุดตัวละครตัวนั้นก็จะเป็นตัวละครที่ขาดความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียวกันหรืออาจจะมีความเป็นไปได้ที่น้อยมากที่ตัวละครนั้นจะสู้กับผู้เล่นคนอื่นได้
เพราะว่าผู้เล่นไม่ได้แชร์ข้อมูลกันเลยทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจสอบรายละเอียดก่อนที่จะเปลี่ยนอาชีพ
'มันเสี่ยงมาก อ๊าคคคคค' อาร์คแทบจะขยุ้มหัวตัวเองระบายความเครียด
ถ้าเขาทำพลาดแค่ครั้งเดียว
ทุกอย่างก็จะจบ
แต่ว่าการปฏิเสธอาชีพลับที่ถูกซ่อนอยู่หลังจากผ่านอะไรมาตั้งเยอะแยะแบบนี้มันก็ดูรันทดเกินไปแล้ว
เขามาไกลถึงขนาดนี้
ต้องลำบากลำบนทำเควสต์ที่แทบเป็นไปไม่ได้ทั้งๆ ที่มีเลเวลแค่ 15 ถ้ามันมีอาชีพลับให้เปลี่ยนแบบนี้
ต้องหมายความมันเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถทั้งหลายทั้งแหล่ที่เขากระเสือกกระสนทำมาขนาดนั้นเลย
แล้วมันจะเป็นอาชีพที่มีความสามารถพิเศษหรือทักษะที่กระจอกๆ อย่างนั้นเหรอ...
‘ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันเป็นอาชีพอะไรก็ตาม
แต่แค่ชื่อของมัน...ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าวีรบุรุษแห่งเมบันเป็นนักรบในตำนานมันจะไม่เกี่ยวกับการต่อสู้หรอกเหรอ? ใช่แล้ว…ฉันเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนั้น!’
ในที่สุดหลังจากที่เขาลังเลอยู่นานอาร์คก็ตะโกนขึ้น “ผมต้องการเปลี่ยนอาชีพ!”
ฉับพลันนั้นร่างของอาร์คก็ถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสว่างที่แผ่กระจายออกมาอย่างสวยงามตระการตา
ชื่อตัวละคร
|
อาร์ค (Ark)
|
เผ่าพันธุ์
|
มนุษย์
|
ธาตุ
|
ไม่มี
|
||
ชื่อเสียง
|
250
|
ระดับ
|
16
|
อาชีพ
|
Dark
Walker
|
||
ฉายา
|
Mouse
Hunter (นักล่าหนู)
|
||
เลือด
|
360
|
มานา
|
100
|
โจมตีกายภาพ
|
67
|
คล่องแคล่ว
|
77
(+2)
|
พลังกาย
|
67
|
โจมตีเวทย์
|
16
|
ป้องกันเวทย์
|
27
|
โชค
|
17
|
ค่าสถานะพิเศษ : ความรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณ (10)
|
|||
เอฟเฟคของอุปกรณ์สวมใส่
|
|||
ดาบแสงประกาย : ความเร็วในการโจมตี+5
ชุดเกราะหนัง Black
Bear Mouse : ความคล่องแคล่ว+2, ความต้านทานความหนาวเย็น
+20
|
“เอ๊ะ! นั่นเป็นแสงสว่างที่ดีต่อสายตาของเจ้านะ
มันเป็นแสงที่ได้รับความแข็งแกร่งจากเผ่าแมวที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าได้เข้าสู่หนทางแห่งการเป็นทรูธซีคเกอร์แล้ว
ข้าชอบมันมาก ทรูธซีคเกอร์นั้นเป็นสหายกับเผ่าแมวมานานแสนนานแล้ว และตอนนี้เจ้าก็คือสหายของเรานอกจากนี้เจ้ายังเป็นคนที่กำจัดปีศาจหนู Black
Bear Mouse และยังนำกระดานชนวนมายังเผ่าเรา
ข้าขอขนานนามเจ้าเป็นอัศวินผู้ทรงเกียรติและขอเรียกว่า ‘อัศวินแมว!’”
ฮัสซานยิ้มอย่างพออกพอใจพลางแกว่งหางไปมา
คุณได้รับฉายา อัศวินแมว จากผู้อาวุโสเผ่าแมวฮัสซาน
ในฐานะที่คุณเป็นอัศวินแห่งแมว
เมื่อต่อสู้กับหนู พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 75% และมีโอกาสระเบิดจนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 50% ความเสียหายจากการโจมตีลดลง
50% (มอนสเตอร์ที่มีขนาดเล็กก็สามารถลดความเสียหายจากการโจมตี
50% เช่นเดียวกัน)
*โบนัสจากฉายา เพิ่มค่าสถานะทั้งหมด 2 จุด (All
status+2)
*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 150
*คุณจะได้รับคุณสมบัติของเผ่าแมว
(ความสามารถ+30% เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก)
*มีความเป็นไปได้ที่จะสื่อสารด้วยภาษาแมวกับแมวทั้งหมดในดินแดน
*ความเสียหายจากการล้มลดลง 50%
|
ทักษะเฉพาะอัศวินแมว จิตวิญญาณแห่งแมวถูกเพิ่มเป็นระดับสูงสุด
จิตวิญญาณแห่งแมว (ขั้นสูง) : เสียงแมวคำรามและสายตาที่คมกริบทำให้มอนสเตอร์ขนาดเล็กตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและเป็นอัมพาตเป็นเวลา
1 นาที พลังโจมตีและพลังป้องกัน กำลังใจในการต่อสู้ลดลง 30% (ในกรณีของมอนสเตอร์ขนาดเล็กถึงแม้ว่ามันจะเป็นบอสมอนสเตอร์ก็ยังแสดงผล
50% เช่นเดียวกัน)
ใช้มานา : 120
|
คุณได้เรียนรู้ทักษะใหม่
นัยน์ตาแห่งแมว (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
คุณสามารถแทรกซึมและมองผ่านความมืดด้วยดวงตาของเมว
นอกจากนี้คุณยังสามารถมองพลังชีวิตของฝ่ายตรงข้าม มานา และจุดอ่อนได้เป็นระยะเวลา
3 นาที
(+การมองเห็นในที่มืด+การตรวจสอบพลังชีวิต+การรับรู้จุดอ่อน)
ใช้มานา : 50
|
อาร์คมองหน้าต่างข้อมูลตาค้าง
ค่าสถานะของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้จะเปลี่ยนอาชีพแล้วก็ตาม
มีเพียงมานาที่เพิ่มขึ้นไป 50 จุดซึ่งมันก็ได้จากการแก้ปัญหาความลับของกระดานชนวน
พร้อมกับค่าโจมตีเวทย์ที่เพิ่มขึ้น 10
จุดส่วนสิ่งที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดคือเขาได้เรียนสกิลนัยน์ตาของแมว
และยกระดับสกิลจิตวิญญาณแห่งแมวเป็นขั้นสูงเท่านั้นเอง
“ไม่-ไม่มีทาง!”
อาร์คร้องโหยหวนอยู่ภายในใจ
ถึงแม้อาชีพทั่วไปจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย
แต่การเปลี่ยนอาชีพก็จะทำให้ได้รับโบนัสค่าสถานะอย่างน้อย 30 จุด
ทักษะเฉพาะก็เช่นเดียวกัน
แม้ว่าจะเป็น Warrior ที่มีสกิลน้อยกว่า Magician 4-5 สกิลก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ได้เจอกับอะไรที่บัดซบแบบนี้
ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงออร่าดำทมึนของอาร์ค
ฮัสซานจึงแสดงความยินดีต่อไป
“โฮ่ะ โฮ่ะ โฮ่ ข้าเห็นการแสดงของออกเจ้า
มันดูเหมือนว่าเจ้ากำลังตกใจอยู่
อาจจะเป็นเพราะได้สืบทอดเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบันสินะ”
‘นี่มัน...ไอ้วายร้าย ฉันถูกหลอกเพราะไอ้บ้านี่พูดถึงวีรบุรุษแห่งเมบันหรืออะไรพรรคนั้นใช่มั้ย…!’
อาร์คคร่ำครวญอยู่ในใจพลางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก
“นี่คืออะไร? ถึงผมจะตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ในฐานะของทรูธซีคเกอร์
แต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย!” ชายหนุ่มระเบิดความโกรธใส่ฮัสซานที่ยังทำหน้าแป้นแล้นใส่เขาอยู่
“อ๊ะ...เจ้าต้องการทั้งหมดสินะ?” ฮัสซานกล่าวขึ้นเมื่อคิดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเปลี่ยนเป็นอาชีพนี้
“จริงๆ
แล้ววิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ปกป้องสมบัติของวีรบุรุษแห่งเมบันที่มีไว้มอบให้กับทรูธซีคเกอร์
ซึ่งสมบัตินั้นจะทำให้ทรูธซีคเกอร์มีความแข็งแกร่งเพื่อจะสืบสานเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบันได้”
‘นั่นหมายความว่าถ้าฉันได้รับไอ้มรดกตกทอดนั่นก็จะทำให้การเปลี่ยนอาชีพของฉันเสร็จสมบูรณ์ใช่มั้ย?’ ข้อมูลใหม่ที่ได้รับทำให้เขาถึงกับหูผึ่ง
อาร์คถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “แล้วสมบัติที่ว่ามันอยู่ที่ไหนล่ะ?”
“เดบราตามหาสมบัตินั่นเป็นเวลานานมาแล้ว
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงยึดวิหาร...”
“งั้นเหรอ แล้วสมบัติอยู่ที่ไหน!”
“ตั้งแต่ที่ไอ้บ้านั่นยึดวิหารไป
แน่นอนว่ามันก็เก็บสมบัติไว้ครอบครอง”
“อะไรนะ?” อาร์คถึงกับหน้าซีด
เขามีประสบการณ์กับพลังของเดบรามากมาย
ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้แม้ว่าจะโจมตีพร้อมกันทั้งหมดก็ตาม
หรือไม่ มันก็เป็นอมตะ
ทำไมเขาต้องจัดการเดบราแล้วเอาสมบัติที่เป็นมรดกนั่นกลับมาด้วย?
ยังไงก็ตามฮัสซานตอบเขาด้วยสีหน้าที่มั่นใจ
“ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่าเจ้าพบกุญแจที่สำคัญนี่แล้ว
เดบราก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป อย่างที่ข้าบอก
ไอ้สารเลวนั่นขังพวกเราไว้เพราะมันกลัวพวกเราด้วยวิธีสกปรกนั่น
เพราะว่าพวกเราเป็นลูกหลานของเมบัน มันมีปัญหานิดหน่อยจากตอนแรกน่ะ”
“มันคืออะไรน่ะ?” อาร์คเริ่มงงกับคำพูดของแมวอาวุโสตัวนี้เป็นอย่างมาก
“พวกเราเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติน่ะ” ฮัสซานแยกเขี้ยวพลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย
คุณได้พบเผ่าแมวที่ถูกเดบราผู้บิดเบือนความฝันกักขังเอาไว้
คุณต้องร่วมมือกับพวกเขาเอาชนะเดบราและเอาสมบัติของวีรบุรุษแห่งเมบันกลับคืนมา
ระดับความยาก +E
ข้อกำหนด : เฉพาะผู้เล่นที่ได้รับฉายาอัศวินแมวเท่านั้น
|
***
"กุญแจ กุญแจอยู่ที่ไหน!"
เดบรากรีดร้องขณะที่มันเดินผ่านกองซากศพของเหล่าอัศวิน
ตอนนั้นเองประตูหินที่ตั้งอยู่บริเวณมุมของห้องโถงก็เปิดออก
ร่างของอาร์คก้าวกลับเข้ามาข้างในห้องโถงอีกครั้ง
"แกกำลังหากุญแจนี่อยู่รึเปล่า?"
สถานที่ที่พวกแมวถูกขังนั้นอยู่ใต้ห้องโถงแห่งนี้เพียงเท่านั้น
เดบราเผลอก้าวถอยหลังเมื่อเห็นสายตาของอาร์ค
"ได้ยังไง...พวกแกมาที่นี่ได้ยังไง?"
"เพราะกุญแจอยู่กับชั้นยังไงล่ะ"
พูดจบอาร์คก็หยิบกระดานชนวนออกมาจากกระเป๋าของเขา
ทันทีที่เดบราเห็นมันดวงตาของปีศาจตนนั้นพร่ามัวราวกับคลุ้มคลั่ง
มันจ้องมองอาร์คสายตาด้วยแสดงความหวาดกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ในขณะที่อาร์คเพียงแค่มองเดบราด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเพียงเท่านั้น
เมื่อเดบราขยับพุ่งตัวโผล่มาด้านหน้าจนแทบจะติดปลายจมูกของอาร์ค
ชายหนุ่มก็ตะโกนเสียงดังด้วยแรงทั้งหมดทันที
"จิตวิญญาณแห่งแมว!!!"
เมี๊ยวววววววว!
รูปร่างของแมวตัวสีดำปรากฏขึ้นเหนือหัวพร้อมกับเสียงกรีดร้องแหลมสูง
หลังจากที่เขากลายเป็นอัศวินแมว
ทักษะนี้ก็ขึ้นไปถึงระดับสูงและรูปร่างของแมวตัวสีดำนี้ก็ใหญ่เป็น 5 เท่าจากเดิมที่เป็นระดับกลาง
ด้วยขนาดตัวของแมวดำที่ใหญ่จนเกือบจะเท่าสิงโต
เพียงแค่มันตวัดนัยน์ตาสีทองจับจ้องเดบราอย่างถมึงถึง
ร่างของเดบราถึงกับชะงักกึกและสั่นสะท้านพลางมองมาที่อาร์คอย่างไม่เชื่อสายตา
"คุ-คุ คุ! เจ้าเป็นมนุษย์
ทำไมเจ้าถึง..."
สิ่งที่ฮัสซานพูดไว้เป็นความจริงทั้งหมด
"ตอนนี้แหละทุกคน
โจมตีเจ้าสัตว์ประหลาดชั่วร้ายนี่เลย!"
ม๊าว ม๊าววว เมี๊ยวววววว!
ทันทีที่อาร์คตะโกนขึ้น แมวร้อยกว่าตัวก็กระโจนลงมาจากด้านหลังประตูหินกระโดดผ่านช่องว่างออกมาอย่างรวดเร็วพลางยืนล้อมรอบเดบราแล้วใช้เขี้ยวและกรงเล็บตวัดกรีดไปทั่วร่างของมัน
เดบราสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดพลันกรีดร้องโหยหวน
ขณะนั้นเองเสื้อคลุมสีดำของมันที่แกว่งสะบัดไปมาได้หลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น
ในที่สุดมันก็เผยร่างที่แท้จริงออกมา!
ร่างของมันถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงแมวแมว
ฮันซานคิดไว้อยู่แล้วว่าร่างกายของเดบราต้องมีอะไรซุกซ่อนอยู่
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด
เดบราคือเกรมลินพลังของมันคือการใช้คาถาในการสร้างภาพลวงตา
นั่นเป็นเหตุผลที่มันได้นำพาโรคร้ายและความอดอยากมายังดินแดนแจ็คสันและไม่สามารถหาวิธีแก้ไขได้
แต่ว่ามันกลับกลัวศัตรูโดยธรรมชาติที่เป็นเพียงมอนสเตอร์ขนาดเล็กอย่างแมวหรือมนุษย์แมวก็ตาม
มันกลัวว่าร่างกายที่แท้จริงจะถูกเปิดเผย
ถึงขนาดหาวิธีปิดผนึกวิหารแห่งนี้โดยการนำกุญแจไปซ่อนไว้ในที่ห่างไกลและซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้โดยการสร้างภาพลวงตาขึ้นมาด้วยเหตุผลเดียวกัน
บรรดาอัศวินที่ต่อสู้กับภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นไม่ได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้แม้แต่น้อย
พลังชีวิตของมันแทบจะไม่ลดลงราวกลับเป็นอมตะ
กลิ่นอายของความน่าสะพรึงกลัวที่สะกดให้เหล่าอัศวินหวาดกลัวนั้นแทบจะหายไปจนหมด
ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกัน
จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงใช้เวทย์มนต์ในการชำระล้างไม่ได้ผล
‘ไม่อยากจะเชื่อว่าจริงๆ
แล้วมันเป็นแค่มอนสเตอร์ตัวเล็กแค่นี้เอง’
“แก...ไอ้เลว...ทำไมมนุษย์ถึงใช้ทักษะของแมวได้?” เดบราที่เดินเซไปเซมาจ้องมองมาที่อาร์คไม่วางตา
“ไอ้หนูบ้าขี้ขลาด
แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าเขาเป็นทรูธซีคเกอร์”
ฮัสซานยิ้มหวานพลางฉีกกระชากร่างกายที่เป็นภาพลวงตาของเดบราออกจากร่างจริง
โดยที่มันไม่สามารถจะหลบหนีได้เลยเพราะฝูงแมวที่ล้อมรอบปิดกั้นทางหนีจนหมด
“อะ...อะไรกัน? ไม่มีทาง...” เดบราร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก
“มันหมายความว่า
เขาเป็นเจ้าของพลังตัวจริงที่แกอยากได้จนตัวสั่นยังไงล่ะ”
“หะ...หุบปาก! นั่นมันเป็นพลังของข้า! ข้าจะไม่มีทางมอบมันให้กับใครก็ตาม!” เดบรากรีดร้องอย่างรุนแรงพลางวิ่งตรงมาหาอาร์ค
ด้วยทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวขั้นสูงที่ถูกเรียกใช้นั้น
ถึงจะเป็นบอสอย่างเกรมลินมันก็ยังแสดงผลถึง 50% แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์แต่ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเดบราช้าลงเป็นอย่างมาก
“อาร์ค! เจ้าปีศาจนั่นใช้พลังแห่งความฝันไม่ได้ตอนที่ข้าจับร่างปลอมนี่ไว้อยู่
พวกเราจะสู้กับร่างปีศาจนี้เอง รีบจบเรื่องบ้าๆ นี้ซะที
พวกเราทุกคนโจมตีพร้อมกันเลย!”
แม๊ว ม๊าวว เมี๊ยววว!
ฝูงแมวและมนุษย์แมวต่างคำรามออกมาโดยปราศจากความกลัวพลางรุมโจมตีร่างปลอมของเดบราอย่างต่อเนื่อง
ไม่มีทางที่จะได้อยู่เฉยๆ
แล้วผ่านเควสต์ไปอย่างง่ายๆ ในโลกนี้เลย
เขาคิดว่าเขาจะได้รับผลตอบแทนหลังจากเปิดโปงร่างกายของเดบราด้วยการช่วยเหลือของพวกแมว
แต่สุดท้ายแล้วการต่อสู้กับเดบราก็ยังเป็นความรับผิดชอบของเขาอยู่ดี
อาร์คเตะสวนร่างของเดบราที่พุ่งชาร์จเข้ามาแล้วเหวี่ยงดาบใส่มันอย่างรุนแรง
“ย๊ากกกกกก!”
คมดาบปะทะเข้ากับร่างของเดบรา
มันล้มลงทันที
ตอนที่อาร์คต่อสู้กับ Black
Bear Mouse ที่เป็นลูกน้องของมัน
ดาบของเขาแทบจะแทงไม่ทะลุผิวหนังของมันได้เลย
แต่เดบรากลับได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การใช้ทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวยังทำให้มันช้าลง
ตอนที่มันอยู่ด้านในร่างปลอมยังทำให้รู้สึกเหมือนเป็นอมตะ
แต่ตอนนี้ร่างปลอมที่สร้างจากภาพลวงตาของมันถูกแยกออกไปทำให้มันยิ่งอ่อนแอกว่าลูกน้องตัวเองเสียอีก
‘ถ้าแค่นี้ชั้นก็น่าจะสู้กับมันได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม!’
อาร์คจ้องมาไปทางเดบราตาแทบไม่กระพริบแล้วเรียกใช้สกิลทันที
“นัยน์ตาแห่งแมว!”
ทันทีที่ทักษะถูกใช้
นัยน์ตาของอาร์คก็กลายเป็นสีทองอ่อนๆ
พลังชีวิตปรากฏขึ้นเหนือหัวของเดบรา
และจุดสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของมันเช่นเดียวกัน มันเป็นจุดอ่อนของเดบราที่เขารับรู้ได้ด้วยนัยน์ตาของแมว
ถ้าเขามุ่งโจมตีไปที่จุดสีแดงนี้จะทำให้พลังโจมตีรุนแรงมากขึ้น
รวมถึงมีโอกาสสูงที่จะทำให้มันเข้าสู่ขั้นวิกฤต
มันเป็นทักษะที่เหมาะกับสไตล์การต่อสู้ของอาร์ค!
“ย๊ากกกกก!”
อาร์คหมุนไปรอบเดบราและแทงดาบของเขาอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น
เดบราจะส่ายตัวอย่างบ้าคลั่ง มันเหวี่ยงไม้เท้าของมันกระแทกบนพื้นแข็ง เวลา 1
นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วและผลของทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวก็น่าจะหมดลง
แต่ว่าบอสตัวนี้ก็ยังไม่สามารถโจมตีอาร์คได้แม้แต่น้อย
‘ทำไมสิ่งที่พวกเขาเรียกกันว่าบอสถึงอ่อนขนาดนี้? หรือเพราะว่าร่างที่เป็นภาพลวงตาของมันถูกแยกออก?’
สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้อาร์คสับสนเป็นอย่างมาก
ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นเพราะความสามารถของตัวเองที่เขายังไม่ได้รับรู้
ด้วยคุณสมบัติของเผ่าแมวที่ได้รับจากการเปลี่ยนอาชีพทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นถึง
30% เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก
นั่นหมายความว่าระดับเลเวล,พลังโจมตี,พลังป้องกัน
และทักษะอื่นๆ ที่ส่งผลต่ออาวุธนั้นถูกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ถึงแม้ว่าอาร์คจะมีเลเวลอยู่ที่ 16
แต่เขากลับโจมตีรุนแรงราวกับเลเวล 25 นอกจากนั้นเดบรานั้นยังเป็นสายนักเวทย์
แล้วนักเวทย์นั้นก็ทำได้เพียงป้องกันสกิล
มันเลยเป็นบอสเกรมลินที่แทบจะไม่แตกต่างจากเกรมลินธรรมดาเลย
การเป็นบอสนั้นแค่ทำให้มันมีความสามารถเพิ่มขึ้นเท่านั้น
อาร์คจึงสู้กับมันตัวคนเดียวได้อย่างสบายๆ
ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมาก
ร่างกายของเขาเบาโหวงแล้วมันก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยที่ต้องเหวี่ยงดาบไปมา
อาร์คจู่โจมกดดันเดบราที่เป็นศัตรูอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่เขาฟาดฟันไปยังจุดสีแดง พลังชีวิตของมันก็จะลดลงทีละนิด หลังจาก 10
นาทีผ่านไปร่างกายของมันก็กลายเป็นสีแดง
มันกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต!
แน่นอนว่าไม่ว่าทักษะของเขาจะสูงขนาดไหน
แต่เขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีทั้งหมดได้
บางครั้งเขาโดนโจมตีและพลังชีวิตก็ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง
แต่มานาที่แทบจะหมดหลอดก็กลับมาเต็มเปี่ยมพอสำหรับใช้สกิลอีกครั้ง
ดวงตาของอาร์คเป็นประกาย
“จิตวิญญาณแห่งแมว!”
เสียงคำรามแหลมคมราวกับแทงทะลุผ่านไปยังร่างของเดบรา
ร่างกายของมันหดเกร็งอย่างเชื่องช้าอีกครั้งหนึ่ง
อาร์คงอร่างกายของเขาให้ต่ำลงเพื่อหลบขาหน้าที่เหวี่ยงมาแล้วต่อยสวนกลับไปที่ขาของมันอย่างรวดเร็ว
ขาของเดบราหักกร็อบอย่างง่ายดาย ร่างของมันเซล้มไปทางด้านหนึ่งทันที
อาร์คแทงดาบเข้าไปที่คอของเดบราอย่างเต็มเปา
“นี่คือจุดจบของแก เดบรา!”
คุณจัดการเดบราได้สำเร็จ!
|
ดาบที่แทงคอของเดบรานั้นทำให้มันได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก
ร่างของมันสั่นเทาลิ้นตกห้อยออกมา ขณะที่ร่างของมันและภาพลวงตาค่อยๆ
หายไปอย่างช้าๆ นั้นเอง
‘ข้าแพ้แล้ว!’
แล้วร่างของมันก็สลายหายไปจนหมดสิ้น…
ถึงแม้ว่าระดับทักษะที่แท้จริงของมันนั้นจะไม่ต่างจากปีศาจหนู
แต่เดบราก็เป็นบอสมอนสเตอร์ที่มีระดับสูงมาก
ตามความจริงแล้ววิหารแห่งนี้ก็เป็นที่สถานที่ซึ่งให้คนทั่วไปเข้ามาได้
แต่ก็ไม่มีใครสามารถจัดการเดบราได้เลย นี่จึงเป็นครั้งแรกจากทั้งหมด
สาเหตุเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายภาพลวงตาของเดบราถ้าหากไม่มีกระดานชนวน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเควสต์ถึงระบุว่ามีเพียงอัศวินแมวเท่านั้นที่สามารถทำมันได้
ยังไงก็ตาม...การจัดการกับเดบราเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้ระดับเขาเพิ่มขึ้นถึง
3 เลเวล
และข้อความที่บอกว่าเขาได้เสร็จสิ้นเควสต์เอาชนะเดบราแห่งความฝันก็ได้ปรากฎขึ้นมาเช่นเดียวกัน
ทำให้ระดับของเขาเพิ่มอีก 1 กลายเป็นว่าเขามีเลเวลอยู่ที่ 20
“ในที่สุดพวกเราก็ได้แก้แค้นเดบรา
เจ้าคือผู้มีพระคุณของเรา! นี่เป็นของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ
เพื่อแสดงความจริงใจของพวกเรา” ฮัสซานเดินเข้ามาหาเขาพลางยื่นถุงมือที่ปกคลุมด้วยปุยขนสีขาวซึ่งยาวไปถึงข้อศอกให้แก่อาร์ค
ฝูงแมวและมนุษย์แมวต่างเปล่งเสียงร้องพลางกระโดดโหยงเหยงไปมาอย่างยินดี
ในขณะที่พวกแมวนั้นไม่เหลือเค้าความตึงเครียดใดๆ
อาร์คกลับได้แต่ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวแล้วเริ่มตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น
เสื้อคลุมซึ่งมีแสงสีแดงเข้มตกอยู่บริเวณที่ร่างปลอมซึ่งเป็นเป็นภาพลวงตาได้หายไป
ส่วนตรงร่างของเดบรานั้นมีกระจกมีอัญมณีประดับเพชรและลูกแก้วห้าสีตกอยู่
“หน้าต่างข้อมูล!”
Cat Paws
(rare) [กรงเล็บแมว]
|
|||
ประเภทชุดเกราะ/อาวุธ
|
ถุงมือหนัง, สนับมือ
|
||
พลังโจมตี
|
9~15
|
ความทนทาน
|
50/50
|
น้ำหนัก
|
5
|
การจำกัด
|
อัศวินแมวเท่านั้น
|
มันเป็นชุดเกราะและอาวุธที่ผู้เอาวุโสแมวฮัสซานได้มอบให้กับคุณ
มีความอ่อนนุ่มดังเช่นถุงมือปกติ แต่ในระหว่างต่อสู้กรงเล็บที่แหลมคมจะกางออก เพียงแค่ใส่มันไว้ก็ทำให้คุณมีความคล่องตัวและความเฉียบคมเช่นเดียวกับแมว
คุณสมบัติ : เพิ่มความเร็วในการโจมตี 10%, ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 15%, อัตราการเกิดคริติคอลเพิ่มขึ้น
10% (Atk speed+10%, Agility+15%,Cri rate+10%)
|
Blood-Red
Mantle of Dreams (Rare) [เสื้อคลุมสีแดงเลือดแห่งความฝัน]
|
|||
ประเภทชุดเกราะ
|
เสื้อคลุม
|
||
พลังป้องกัน
|
70
|
ความทนทาน
|
50/50
|
น้ำหนัก
|
10
|
การจำกัด
|
เลเวล 20
|
เสื้อคลุมคำสาปที่ถูกสร้างขึ้นจากการทักถอฝันร้ายของผู้คนจำนวนมาก
ผู้สวมใส่จะได้รับคำสาป – สติจะพร่ามัว การเคลื่อนไหวจะเชื่องช้าเป็นการแลกเปลี่ยน
ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อวัน
คุณสามารถใช้พลังสาปแช่งไปยังศัตรูและทำให้พวกเขาตกอยู่ในฝันร้าย
คุณสมบัติ : สถานะทั้งหมด -15 (All status-15)
คุณสมบัติพิเศษ : คุณสามารถใช้พลังของภาพลวงตาในการห่อหุ้มร่างกายเพื่อฟื้นพลังชีวิตกลับมาเต็ม
100% และทำให้อยู่ในสถานะอมตะเป็นเวลา 10 วินาที
(ใช้ได้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น) - ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อวัน
|
ลูกแก้วห้าสี : ลูกแก้วนี้เต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งส่วนหนึ่งของวีรบุรุษแห่งเมบัน
|
กระจกประดับอัญมณี : ไอเท็มเริ่มต้นสำหรับเควสต์เลเวล 40
|
‘ฉันเจอแจ็คพอตแล้ว!’
สิ่งตอบแทนหลังจากเอาชนะเดบราซึ่งเป็นเควสต์นั้นมีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้รับไอเท็มที่พิเศษ
แต่ถึงอย่างนั้นการที่เขาได้รับเสื้อคลุมมานั้นก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่มีค่ามาก
สิ่งที่เขาได้รับเป็นแรร์ไอเท็มในโลกใหม่ซึ่งเป็นเกมที่เพิ่งเปิดให้บริการมาแค่สองเดือนนั่นก็แทบจะเหมือนกับการพยายามคว้าดาวที่อยู่บนท้องฟ้า
ถึงจะน่าเสียดายมีจุดที่ไม่ดีอย่างการหักค่าสถานะ
แต่เมื่อดูคุณสมบัติพิเศษของมันก็เหมือนมันจะมีมูลค่ามหาศาล
แล้วเขาก็ยังจะได้รับรางวัลของรางวัลอีกทีหนึ่งด้วย
‘ตอนนี้เควสต์ที่ฉันต้องทำก็มีแค่ออกไปส่งข่าวแค่นั้นเอง’
มันก็คือเควสต์ที่เขาได้รับจากฮาเวสไตน์ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ออกจากวิหารแห่งนี้
‘แต่ก่อนหน้านั้น ฉันมีสิ่งที่ต้องทำก่อน’
อาร์คคว้าลูกแก้วห้าสีมาจรดชิดหน้าผาก
พริบตานั้นเองลูกแก้วพวกนั้นก็เปล่งแสงสว่างทั้งห้าสีออกมาล้อมรอบตัวของอาร์ค
ชื่อตัวละคร
|
อาร์ค (Ark)
|
เผ่าพันธุ์
|
มนุษย์
|
ธาตุ
|
ไม่มี
|
||
ชื่อเสียง
|
300
|
ระดับ
|
20
|
อาชีพ
|
Dark Walker
|
||
ฉายา
|
Mouse
Hunter , อัศวินแมว
|
||
เลือด
|
470 (+100)
|
มานา
|
170 (+100)
|
โจมตีกายภาพ
|
79 (+5)
|
คล่องแคล่ว
|
89 (+17)
|
พลังกาย
|
89 (+5)
|
โจมตีเวทย์
|
29 (+5)
|
ป้องกันเวทย์
|
18 (+5)
|
โชค
|
19 (+15)
|
พลังจิตวิญญาณ
|
0 (+100)
|
||
ค่าสถานะพิเศษ : ความรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณ (10)
|
|||
เอฟเฟคของอุปกรณ์สวมใส่
|
|||
ดาบแสงประกาย : ความเร็วในการโจมตี+5
ชุดเกราะหนัง Black
Bear Mouse : ความคล่องแคล่ว+2, ความต้านทานความหนาวเย็น
+20
|
|||
*ความสามารถทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 20% เมื่ออยู่ในความมืด
*ความสามารถในการหลบซ่อนตัวในที่มืดถือกำเนิดขึ้น (ใช้ได้ 10 นาที
เมื่อต่อสู้จะถูกยกเลิก)
*ความต้านทานต่อความหวาดกลัว,ความมืด,สถานะตาบอด,และมนต์เสน่ห์เพิ่มขึ้น
50%
*คุณสามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงได้กับอาวุธทุกประเภท
|
คุณได้เรียนรู้ทักษะอาชีพใหม่
Dark Blade (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
ใช้ดาบที่ดูดซับอาบไปด้วยความมืดของคุณจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
ดาบที่หลอมรวมกับความมืดนั้นเมื่อใช้โจมตีจะไม่สนใจการป้องกันทางกายภาพทั้งหมด
พลังความรุนแรงของการโจมตีคริติคอลเป็น 150% ไม่สนใจการป้องกัน
ใช้มานา : 100 (มีโอกาส 1% ในการฆ่าโดยทันทีถ้าคุณใช้ Dark Blade โจมตีใส่ศัตรูการด้วยติดคริติคอลขณะที่ใช้สกิลนัยน์ตาแห่งแมว)
|
คุณได้เรียนรู้ทักษะอาชีพใหม่
อัญเชิญปีศาจ (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
คุณสามารถเรียกปีศาจชั้นต่ำที่เดินทางระหว่างภพกลางและนรกได้ 3 ตัว
ปีศาจที่ถูกซัมมอนจะมีระดับอยู่ที่ 1 และใช้มานาของผู้เล่น
หากมันตายจะถูกส่งตัวกลับไปยังโลกเดิม ขณะเดียวกันพลังชีวิตของคุณจะถูกหัก 50% จากทั้งหมดและไม่สามารถซัมมอนใหม่ได้อีกภายใน 24 ชั่วโมง
ใช้จิตวิญญาณ : 100
|
***
“จากพ่องั้นเหรอ...” เด็กหนุ่มกุมสร้อยคอสีเงินที่เปื้อนเลือดเอาไว้แน่น
อาร์คมองด้วยสายตาโศกเศร้า
หลังจากที่เขาจัดการเดบราได้แล้วอาร์คก็ได้รวบรวมเหล่าอัศวินที่รอดชีวิตซึ่งกระจายอยู่ในวิหารพาส่งกลับมายังปราสาทแจ็คสัน
แล้วจึงเอาสร้อยเงินมาให้ลูกชายของฮาเวสไตน์ที่มีอายุเพียง 15 ปีคนนี้นั่นเอง
เด็กชายที่จะกลายมาเป็นลอร์ดต่อจากฮาเวสไตน์นั้นไม่มีน้ำตาแม้แต่น้อย
เขาเพียงแค่จ้องมองสร้อยด้วยดวงตาที่แดงก่ำและส่งเสียงขลุกขลักในลำคอแค่ไม่กี่ครั้ง
เขาเป็นเด็กที่เข้มแข็ง
“อาร์ค
พ่อของข้าจากไปอย่างมีเกียรติใช่มั้ย?”
“ใช่...เขากล้าหาญกว่าใคร
แล้วก็ยังเป็นคนที่รักลูกชายของเขาอย่างแท้จริง”
“...ขอบคุณ” ท่านลอร์ดน้อยพยักหน้าและมองมาที่อาร์ค
“อาร์ค...เจ้าดูแลพ่อข้าอยู่ตลอดการสำรวจซากโบราณสถานนั่น
ได้เห็นเขาตายและเพื่อรักษาสัญญาที่มีต่อเขาเจ้าจึงนำสร้อยเงินเส้นนี้มามอบให้แก่ข้า
นอกจากนี้ด้วยความกล้าหาญจนน่าตกใจของเจ้าทำให้เดบราถึงกับพ่ายแพ้และรักษาชีวิตของข้าเอาไว้ได้
ความสำเร็จครั้งนี้ข้าไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดได้
และยังไม่สามารถชดเชยให้ท่านด้วยสิ่งตอบแทนจำนวนมากมายเท่าใดก็ตาม”
‘แบบนั้นเลย...เขาเข้าใจได้ถูกต้องมากๆ’ อาร์คพยักหน้าพลางยิ้มอย่างยินดี
แต่แล้วท่านลอร์ดก็ส่ายหน้าอย่างรุนแรง
“แต่ข้าจะไม่มอบรางวัลให้กับท่าน!”
‘อะไรนะ? นี่...นี่มันเกินไปหน่อยแล้ว! เขาพ่นอะไรไร้สาระออกมาวะเนี่ย?’
“ที่พ่อฝากฝังให้เจ้าเอาสร้อยเปื้อนเลือดนี้มาส่งให้ข้านั่นหมายความว่าเขาคิดว่าเจ้าเป็นสหายที่แท้จริง! ข้าไม่อาจเอาของรางวัลที่สกปรกมาทำให้สายสัมพันธ์นั้นต้องแปดเปื้อนเป็นอันขาด
ข้าเชื่อว่าพ่อของข้าจะต้องคิดว่าเจ้าเป็นคนแบบนี้แน่นอน”
อาร์คส่ายหัวราวกับว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว
แต่ถึงจะเป็นอาร์คก็ตาม การที่จะให้เขาพูดออกไปว่า ‘นั่นมันไม่จริง ฉันชอบที่ได้รับของรางวัลพวกนั้นต่างหาก’ นั่นก็ออกจะเกินไปหน่อย ดังนั้นเพื่อลอร์ดน้อยที่กำลังโศกเศร้ากับข่าวการตายของผู้เป็นพ่อ
อาร์คเลยพยายามฉีกยิ้มออกมาท่ามกลางความอึดอัดใจ
“ใช่แล้ว...อืม...ดังนั้น...”
“อาร์คเป็นเพื่อนของพ่อแล้วก็ยังเป็นเพื่อนของข้าด้วย
แม้ว่าข้าไม่มีอะไรจะมอบให้ก็ตาม แต่ข้าให้สัญญากับเจ้าที่นี่และตอนนี้ หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า
ข้าก็รีบไปช่วยแม้ว่าเจ้าจะอยู่สุดผืนแผ่นดินก็ตาม!”
“อ่า...งั้นเหรอ...ขอบคุณนะ”
‘สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ให้อะไรฉันเลยซักนิด! มีแค่คำพูดปากเปล่านั่นก็เท่านั้น!’
อาร์คพยักหน้าด้วยสีหน้าราวกับกำลังจะร้องไห้
เควสต์ความยากระดับ +E นั้นถึงเขาจะเคลียร์มันไปอีกแบบหนึ่งแต่เขาก็ได้รับเควสต์เปลี่ยนอาชีพ! เขาได้รับแม้กระทั่งค่าประสบการณ์และระดับที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เลเวล
แต่ว่าเขากลับไม่ได้รับของรางวัลสำหรับเควสต์ที่โคตรจะยากลำบากแบบนี้
ถึงแม้เควสต์จะเสร็จสมบูรณ์ก็ตาม เรื่องไร้สาระเส็งเคร็งนี้มันคืออะไรรร!
เขารู้สึกเหมือนตัวเองลูกหลอกลวง แต่เขาก็ไม่สามารถโวยวายออกไปได้เมื่อท่านลอร์ดน้อยนั้นพูดออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจ
‘ไม่อยากจะเชื่อว่าหมอนั่นจะเรียกมันว่ามิตรภาพ
ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลูก พวกเขาก็เข้มงวดจนเกินไป...’ อาร์คบ่นขณะที่เดินลากขาอย่างเหน็ดเหนื่อยออกจากปราสาท
สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้แม้แต่ 1
ทองแดง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่ถึงขนาดอยากระบายความโกรธออกมา
คงจะบอกได้ว่าเขากำลังพยายามชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด?
“ทุกคนฟังทางนี้!”
ในขณะที่เขาเดินผ่านบริเวณประตู เขาได้ยินเสียงคำสั่งดังกระหึ่ม
อาร์คหันไปมองตามเสียงเตือนพลันเห็นทหารจำนวนมากมายที่แต่งเครื่องแบบยืนเรียงรายอยู่บนประตูของปราสาท
ขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเกิดเชี่ยอะไรขึ้น
ครอสที่เป็นผู้ดูแลทหารป้องกันปราสาทนั้นก็พยักหน้าเล็กก่อนจะตะโกนออกคำสั่งออกมา
“ทำความเคารพ!”
เหล่าทหารชักดาบออกและชี้ดาบของตนขึ้นไปบนท้องฟ้า
อาร์คยืนมองด้วยสีหน้างงงวยไปชั่วขณะ
ก่อนที่จู่ๆ เขาจะรู้สึกเหมือนมีสายตาจ้องมองมาที่เขา
ชายหนุ่มจึงมองกลับไปยังป้อมปราการของปราสาท
ที่หน้าต่างนั้น ลอร์ดน้อยมองเขาด้วยใบหน้าที่กระจ่างใสและรอยยิ้มที่อ่อนโยน
ดวงตาของเขาสื่ออะไรได้มากมาย
อาร์คมองท่านลอร์ดคนใหม่อยู่พักหนึ่งก่อนจะส่ายหัวไปมา
“ฉันรู้แล้วว่า NPC เกมนี้จะคนไหนๆ ก็ทื่อมะลื่อเข้มงวดเกินไปซะหมด”
ใบหน้าที่บอกบุญไม่รับของอาร์คปรากฏรอยยิ้มขณะที่เดินผ่านทหาร
แสงแดดที่ส่องกระทบกับบริเวณริมใบหูของเขานั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น
สายลมที่อ่อนโยนสดชื่นโชยพัดผ่านร่าง
ที่จริงแล้ว...มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหรอกนะ
ขณะที่อาร์คเดินออกไปอย่างสบายใจ
บรรดาผู้เล่นที่รวมตัวกันออกมาจากหุบเขาของหมู่บ้านเริ่มต้นต่างเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นนี้พลางคิดว่ามันอาจจะเป็นอีเวนท์พิเศษอะไรบางอย่าง...
***End
of Chapter***
Titanium Alloy Tools - TITIAN ART
ตอบลบUse our all-in-one tool smith titanium to make your wood tools, titanium network surf freely tools titanium shaver and tools more sunscreen with zinc oxide and titanium dioxide durable titanium paint color and to make your wood tools better.