วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เล่ม 1 ตอนที่ 06 : อัศวินแมว

ตอนที่ 06 : อัศวินแมว



ที่นี่มันที่ไหนกัน?”

อาร์คกวาดตามองไปรอบๆ แต่เขากลับเห็นเพียงความมืดสนิทที่มองไม่เห็นแม้กระทั่งนิ้วของตัวเอง

ถ้าเราวาร์ปมา มันก็ไม่น่าไกลเท่าไหร่...

ระยะทางที่สามารถวาร์ปเคลื่อนที่นั้นจำกัดแค่ 200 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่สามารถกำหนดสถานที่ได้ มันทำได้เพียงแค่สุ่มย้ายไปทุกที่ในบริเวณใกล้เคียง ยังไงก็ตาม เหตุผลที่ทำให้มันจัดเป็นเวทย์ขั้นสูงก็เพราะว่าเมื่อนักเวทย์จะใช้วาร์ป พวกเขาต้องใช้พลังจำนวนมหาศาล

มีหลายครั้งที่นักเวทย์ใช้มันเมื่อไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้ พวกเขาจะร่ายคาถาเพื่อใช้วาร์ปด้วยการร่ายคาถาแบบสั้นๆ ก็จะทำให้เคลื่อนย้ายระยะทางได้ไม่มากแม้ว่าจะไม่สามารถกำหนดจุดหมายได้ แต่มันก็เป็นประโยชน์มากที่สุดสำหรับการต่อสู้อยู่ด้านหลังของพวกนักสู้

ยังไงก็แล้วแต่...ดูเหมือนที่ฉันรอดมาได้คงต้องขอบคุณพวกเขาที่วาร์ปส่งฉันออกมาสินะ

อาร์คเดินเปะปะควานไปรอบๆ ในความมืดก่อนจะพบฮาเวสไตน์ที่ทรุดตัวนอนอยู่บนพื้น

ไวเคานต์ คุณเป็นยังไงบ้าง!?”

ฮาเวสไตน์ลืมตาขึ้นมาอย่างอ่อนแรง

โอ้...อาร์ค เจ้ายังรอดชีวิต โล่งอกไปที” เขาพูดพึมพำด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง

มีสติหน่อยสิคุณจะอ่อนแอไม่ได้ ไม่ใช่ว่าคุณต้องการแก้แค้นแทนพ่อของคุณหรอกเหรอ?”

ผิดแล้ว...ถึงแม้ว่าข้าจะเชื่อคำพูดของเจ้า...ที่บอกให้เข้มแข็ง...แต่ข้าก็ไม่อาจพาพวกเขาออกมา...บรรดาทหารที่ต้องมาเดือดร้อนเพราะข้า...อย่าว่าแต่แก้แค้นให้พ่อของข้าเลย...แม้แต่บุตรชายของข้า...ก็มิอาจปกป้องเอาไว้ได้...ช่างน่าสงสารนัก...แค่กๆ

ฮาเวสไตน์ไอจนตัวโยนพลางอาเจียนออกมาเป็นเลือด ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็จับสร้อยเงินแล้วกระชากมันออกมามอบให้แก่อาร์ค

อาร์ค...ลูกชายของข้าน่ะแข็งแกร่งนะ...ไม่ต้องสงสัยเลย เขาจะต้องเติบโตขึ้นอย่างเข้มแข็ง...ช่วยบอกกับเด็กคนนั้นที...ข้าเสียใจที่ไม่อาจปกป้องเจ้าได้...และยิ่งเสียใจที่มิอาจปกป้องลูกชายเช่นเดียวกัน...ช่วยบอกเขา...เจ้าสัญญากับข้าได้หรือไม่...สัญญาว่าเจ้าจะมีชีวิตรอดและบอกกับเขา...

ผม...เข้าใจแล้ว” อาร์คกล่าวตกลงเมื่อเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของคนตรงหน้า

ขอบใจนะ...

แขนของฮาไวสไตน์ที่สั่นเทาค่อยๆ ตกห้อยลงมาอย่างสงบ ร่างของเขาเริ่มโปร่งใสอย่างช้าๆ

อาร์คกัดฟันเบาๆ เมื่อเห็นร่างกายที่ค่อยๆ จางหายไป ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่และก็เป็นอีกครั้งที่ทำให้เขาได้รับรู้ถึงความเป็นจริงว่า NPC เหล่านี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ แต่ในใจของก็รู้สึกโศกเศร้าอยู่ดี

ถึงแม้ว่าเขาจะเป็น NPC แต่เขาก็เป็นคนที่อาร์คคอยดูแลมาตลอดทาง ชายหนุ่มคอยรักษาพยาบาลเขาอย่างจริงใจ พอเห็นคนๆ นั้นหายไปต่อหน้าต่อตา น้ำตาของเขาก็เอ่อไหลออกมาด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย

จากนั้นเสียงกลองก็ดังรัวขึ้นในหูของเขา


คุณได้รับสร้อยคอสีเงินเปื้อนเลือดของไวเคานต์ฮาเวสไตน์

อา...ใช่แล้ว นี่มันบ้าชัดๆ ถ้าฮาเวสไตน์ตายเควสต์เราก็จบไม่ใช่หรือไง?’

มันจบลงด้วยความล้มเหลวหลังจากเขาต้องทนลำบากมามากมาย...แต่การระเบิดอารมณ์โกรธออกมาในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

คนที่ตายนั้นไม่สามารถหายไปเลยได้ ดังนั้น NPC ก็ต้องเป็นแบบเดียวกัน มีเพียงจุดเดียวที่แตกต่างจากความเป็นจริงคือเมื่อ NPC ได้ตายลงไป ก็ต้องมีคนที่มารับบทบาทนั้นในสถานที่เดียวกันแทน ไม่สิ...ในความเป็นจริงก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วยเหมือนกัน?

ในขณะที่อาร์คกำลังคิดอยู่นั้น หน้าต่างเควสต์ก็เปิดขึ้นมา

อาร์คเบิกตากว้างเมื่อเห็นข้อความที่ปรากกฎขึ้น “ โอ้ว...นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

เควสต์มีการอัพเดต
ความลับของกระดานชนวน III " ส่งมอบของที่ระลึกให้กับลูกชายของไวเคานต์ฮาเวสไตน์
ไวเคานต์ฮาเวสไตน์ได้ตายลงแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าเศร้า แต่คุณก็ต้องยอมรับความจริง อย่างไรก็ตามเขาได้ทิ้งคำสั่งเสียไว้ที่คุณซึ่งเป็นคนที่เขาไว้วางใจให้ส่งมอบของที่ระลึกให้แก่ลูกชายของเขา ตามที่เขาได้ร้องขอเอาไว้ คุณต้องหลีกเลี่ยงอันตรายและส่งมอบของที่ระลึกให้แต่ลูกชายของเขาซึ่งอยู่ที่ปราสาท

ข้อควรระวังถ้าคุณตายในขณะที่เริ่มเควสต์นี้ ของที่ระลึกจะหายไปและคุณจะล้มเหลวในเควสต์นี้เช่นกัน ในกรณีที่เควสต์ล้มเหลวคุณจะได้รับบทลงโทษจากไอเท็มที่เกี่ยวข้องกับเควสต์นี้จึงควรระมัดระมัดเป็นอย่างมาก

ระดับความยาก: +E


น่าแปลกมากที่เควสต์นั้นยังไม่ได้จบลง

เดี๋ยวสิ...เควสต์ทั้งหมดของฉันมันไม่ได้บอกว่าต้องฆ่าเดบราซะหน่อยนี่

โลกใหม่เป็นเกมที่ให้อิสระแก่ผู้เล่นเป็นอย่างมาก การทำเควสต์ก็เช่นเดียวกัน

มันก็เหมือนกับการขอเข้าไปในโบราณสถานโดยใช้วิธีน่ารำคาญจนทำให้ฮาเวสไตน์ต้องยอมตกลง เป้าหมายของเควสต์จึงมีการปรับเปลี่ยนไปตามการตัดสินใจของผู้เล่น ถ้าหากเดบราพ่ายแพ้หลังจากนั้นอาร์คก็จะได้รับของรางวัลตอบแทนมันก็จะจบลงเช่นเดียวกัน แม้ในกรณีที่เดบราชนะก็ตาม เขาก็ยังมีทางออกแบบอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย

ใช่แล้ว...เป้าหมายของฉันแค่หาความลับภายในโบราณสถาน และผลของมันก็ทำให้ฉันเข้าไปเจอกับเดบราซึ่งนั่นก็พอแล้วที่จะทำให้เควสต์สำเร็จ ส่วนที่กำลังเจออยู่นี่คงเป็นเพราะเควสต์ย่อยที่เกี่ยวข้องกันสินะ

นี่คงเป็นภารกิจที่สามารถรับได้เมื่อมีระดับค่าความสนิทสนมกับไวเคานต์ฮาเวสไตน์สูงพอ

ถ้าอย่างนั้นก็ค่อยยังชั่ว แต่ว่าชั้นจะทำยังไงกับเรื่องนี้ดีพวกเขาบังคับไม่ให้ฉันใช้ทริคซะด้วย...” อาร์คพึมพำด้วยเสียงเบื่อหน่าย

ไม่ว่าจะเป็นทางไหน การจะออกจากซากโบราณสถานแห่งนี้ด้วยตัวเองเพียงลำพังนั้นเป็นเรื่องที่ยากเกินไป ดังนั้นแล้วเมื่ออาร์คอ่านคำอธิบายในตอนแรกเขาก็เลยคิดจะฆ่าตัวตาย เพราะเมื่อผู้เล่นตายเขาก็จะปรากฏตัวยังจุดที่ได้บันทึกไว้

และสถานที่สุดท้ายที่เขาได้บันทึกไว้ก็คือปราสาทแจ็คสัน ถึงแม้ว่าค่าสถานะของเขาจะถูกหักไป เขาก็ควรจะใช้เวลานี้ในการคืนค่าสถานะที่เหลือ

ถ้าสิ่งที่เขาต้องทำคือการคืนค่าสถานะแล้วกลับมาทำเควสต์ต่อได้ เขาก็จะสำเร็จเควสต์ความยากในระดับ +แต่เพราะหมายเหตุด้านล่างของเควสต์มันเลยทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย

เมื่อเขาคิดว่าจะยอมแพ้ในเควสต์นี้ อาร์คก็ได้แต่สั่นหัวไล่ความคิดนั้นไป

มันเป็นเควสต์ต่อเนื่องหลายครั้งมาก ใครจะรู้ว่าสิ่งตอบแทนจะมีค่ามากมายขนาดไหน นอกจากนี้แล้วก็ยังมีความรู้สึกของเขาที่ทำให้ตัดสินใจได้ยากเย็นเข้าไปอีก

ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากจะทำตามคำขอสุดท้ายของฮาเวสไตน์

เขาเป็น NPC ที่ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนอื่นมากมายซักเท่าไหร่ ดังนั้นแล้วฉันควรจะพยายามช่วยเขาเท่าที่จะทำได้ บทลงโทษจากไอเท็มที่ว่าคงจะทำให้ฉันกังวลจนเกินไป

อาจเป็นเพราะว่าเขาไม่รู้ข้อมูลง่ายๆ บางอย่างในหมู่บ้านฮารันมันเลยทำให้เขาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ดังนั้นแล้วถ้ามีอะไรที่น่าสงสัยเขาก็ควรจะระวังมันเอาไว้ก่อนจะดีกว่า

แล้วทีนี้ฉันต้องไปที่ไหนต่อถ้าดูจากข้อมูลในเควสต์ที่ให้มา มันน่าจะมีทางออกจากที่นี่แน่ๆ แต่ก็นะ...ตอนนี้ไม่มีอะไรที่ฉันพอจะทำได้เลยซักอย่าง คงได้แต่ลองเดินมั่วๆ ดูล่ะนะ

อาร์คใช้มือข้างหนึ่งแตะที่ผนังก่อนจะเริ่มเดินในความมืดต่อไป

การเดินเลียบตามผนังหรือกำแพงไปแบบนี้ เป็นวิธีง่ายที่สุดที่จะทำให้เขาสามารถออกจากเขาวงกตแห่งนี้ได้

ชายหนุ่มเดินไปตามทางเดินเส้นเล็กๆ ซึ่งตัดผ่านด้านหนึ่งของพื้นที่รูปวงกลม เมื่อเขาเดินไปจนสุดทางก็พบพื้นที่กว้างขวางขนาดใหญ่อีกครั้ง

เมื่อเขาได้พบพื้นที่ลักษณะแบบเดียวกันนี้สามครั้ง จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วในความมืด อาร์คที่กำลังเดินไปข้างหน้าชะงักกึกเมื่อมองเห็นประกายแสงสีแดงที่อยู่ด้านหน้าเขา


คุณถูกโจมตี พลังชีวิต -5


ศัตรูงั้นเหรอ!’

อาร์คชักดาบของเขาขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันเขาก็ได้ยินเสียงสวบสาบเหมือนกับตอนที่อยู่ในถ้ำ เสียงนั้นบ่งบอกว่าเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่งหรือสอง แค่ชั่วระยะเวลาเพียงไม่กี่อึดใจ พวกมันก็พุ่งกระโจนเข้าใส่เขาทันที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้รับค่าเสียหายรุนแรงนัก แต่ค่าพลังชีวิตก็ลดลงเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง

ถ้าศัตรูพวกนี้สามารถลดพลังชีวิตของเขาได้อย่างรวดเร็วทีละ 5 จุด แล้วมีจำนวนประมาณร้อยตัวเป็นอย่างน้อย ความเสียหายก็จะทวีคูณเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่าศัตรูของเขาอาจจะเป็นหนูแต่มันก็เป็นสถานการณ์ที่อันตรายมาก ในขณะที่ค่าพลังชีวิตของเขาลดลงไปถึงครึ่ง อาร์คก็เงยหน้าตะโกนเรียกใช้สกิลทันที

จิตวิญญาณแห่งแมว!

เมี๊ยวววววววววววววว!

เสียงร้องแหลมดังก้องไปทั่วถ้ำ แต่มันก็ไม่สามารถหยุดการโจมตีต่อเนื่องนี้ได้

พวกมันติดสถานะรึเปล่าเนี่ย?’

อาร์คยกดาบขึ้นมาเตรียมจัดการกับพวกมันอย่างรวดเร็ว ทว่าพริบตานั้นดวงตาสีเหลืองนับร้อยคู่ก็ปรากฎขึ้นด้านหน้าเขา นัยน์ตากระหายเลือดนั้นส่องประกายแวววับ บรรยากาศในถ้ำเริ่มหนาวเย็นขึ้นทุกขณะ

'บ้าเอ๊ย! พวกมันไม่ได้เป็นอัมพาต มันล้มเหลวงั้นเหรอ?'

ทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวระดับกลางนั้นสามารถทำให้หนูเป็นอัมพาตถึง 100 เปอร์เซ็น แต่เมื่อใช้กับมอนสเตอร์ที่มีขนาดเล็กนั้นมีโอกาสล้มเหลวถึง 50 เปอร์เซ็น นั่นหมายความว่ามันมีโอกาส 50/50 แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นโชคร้ายเมื่อสกิลนั้นไม่ทำงาน

นอกจากนี้การเรียกใช้สกิลจิตวิญญาณแห่งแมวระดับกลางนี้ต้องใช้มานาถึง 100 จุด ถ้าเขาใช้มันครั้งหนึ่งจะใช้อีกไม่ได้ภายใน 10 นาทีจนกว่ามานาของเขาจะฟื้นฟูกลับมาเต็มอีกครั้งหนึ่ง

ในขณะที่อาร์คกำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย นัยน์ตาของเขาเริ่มพร่าเลือนและเริ่มปิดลงอย่างช้าๆ ซึ่งเป็นผลจากพลังชีวิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เขาก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นทำให้ทั้งหมดหยุดการเคลื่อนไหว

"หยุดเดี๋ยวนี้! เขาไม่ใช่ศัตรู"

ในตอนนั้นเองการจู่โจมที่แสนอันตรายนั้นก็อันตรธานหายไปราวกับว่าเขาแค่ฝันไป แม้ว่าก่อนหน้านั้นเขาจะเห็นดวงตาสีเหลืองของฝ่ายตรงข้าม แต่อาร์คก็คิดว่าอาจเป็นเพราะความมืดเลยทำให้เขาตาฝาดมองเห็นอะไรไม่ชัด แต่แล้วพวกมันก็ปรากฏตัวออกมาจากในความมืดนั้น

นี่มัน...แมว?”

สิ่งที่อยู่รอบๆ ตัวของอาร์คคือฝูงแมวประมาณร้อยกว่าตัว แมวทุกสายพันธุ์ที่ในชีวิตนี้เขาอาจจะได้เห็นมันจากหนังสือเท่านั้น แม้แต่แมวบางชนิดที่เขาไม่เคยได้ยินถึงการรวมสายพันธุ์ของพวกมันมาก่อนนั่นก็ด้วย

อื้ม...เจ้าใช้ทักษะแมวนั่นได้ยังไง?”

เสียงนั้นดังมาจากทางด้านหน้าของเขา อาร์ครีบหันหน้าไปมองแต่กลับพบผู้หญิงคนหนึ่งที่ยื่นหน้าเข้ามาใกล้แล้วใช้จมูกดมกลิ่นของเขา ทำให้อาร์คที่หันหน้ากลับมาถึงกับสะดุ้งตกใจเป็นอย่างมาก

ผู้หญิงเหรอแต่หูกับหางนั่นล่ะ?’

เมื่ออาร์คสังเกตร่างของคนตรงหน้าชัดๆ ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างขึ้น

ลักษณะของคนที่กำลังใช้จมูกตรวจสอบเขานั้นเป็นผู้หญิงอย่างไม่ต้องสงสัย ใบหน้าที่สวยใสน่ารักและรูปร่างทรวดทรงที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดเสื้อผ้าหนังฟิตเปรี๊ยะนั้นทำให้เธอดูยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน แต่ที่สะดุดตาคือหูแหลมที่ติดอยู่บนหัวของเธอและบริเวณใกล้ๆ บั้นท้ายก็มีหางยาวที่แกว่งไปมาเบาๆ

เธอเหมือนผู้หญิงใส่ชุดแมวที่บางครั้งก็ปรากฏในนิตยสารของผู้ใหญ่

ในขณะที่หญิงสาวจ้องมองชายหนุ่มตรงหน้าไปจนทั่วทั้งตัวแล้ว เธอก็เปิดปากพูดกับเขา

ข้าเจน่า แล้วเจ้าล่ะ?

อ่อผะ...ผมชื่ออาร์ค

ข้าแค่ถามเฉยๆ น่า...ว่าแต่เจ้าเป็นมนุษย์ใช่มั้ย?”

เมื่ออาร์คพยักหน้าด้วยสีหน้างุนงง เจน่าก็หันรีหันขวางมองไปรอบๆ “ข้าไม่รู้ว่ามนุษย์อย่างเจ้ามาที่นี่ได้ยังไง...เอาเถอะ ตามข้ามาแล้วกัน

ชายหนุ่มไม่รู้ต้องทำตัวยังไงเลยได้แต่ทำตัวเฉยๆ ตามปกติพลางมองไปรอบๆ อย่างเหม่อลอย

'แต่ว่านะ...ดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่คิดว่าเราเป็นศัตรูแล้วแฮะ'

สุดท้ายอาร์คก็เก็บดาบของเขาลงและเดินตามผู้หญิงที่มีหางคนนั้นไป ส่วนฝูงแมวก็เดินป้วนเปี้ยนอยู่รอบๆ ตัวเขาอย่างใกล้ชิด สายตาของพวกมันที่มองเขาเหมือนเป็นสิ่งของที่พวกมันต้องคุ้มครองหรือไม่ก็เป็นเป็นนักโทษที่ต้องคอยคุมตัว ทำให้ความเครียดในตอนแรกนั้นหายไปหมดจนถึงขนาดอดหัวเราะออกมาไม่ได้

หลังจากที่เดินมาราวๆ 30 นาที เขาก็มาถึงพื้นที่ซึ่งมีแสงสลัวๆ ส่องลงมาพอให้เห็นรายละเอียดของบริเวณนั้นๆ

อาร์คเห็นคนที่มีลักษณะคล้ายกับเจน่าประมาณ 15 คนยืนรวมอยู่กลางพื้นที่ซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยแมวนับร้อยตัว ตรงจุดที่เป็นศูนย์กลางนั้นมีร่างใหญ่โตของผู้อาวุโสนั่งอยู่ตรงกลาง

ร่างกายที่ใหญ่โตนั้นไม่ได้หมายความว่าเขามีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่หมายถึงมีรูปร่างที่พองกลมราวกับบอลลูนที่ใช้โฆษณาต่างหาก

แน่นอนว่ารวมไปถึงหูกับหางที่ติดอยู่กับตัวเขาด้วย

นี่มันบ้าอะไรเนี่ยเมืองคอสเพลย์งั้นเหรอหรือว่าอะไรกันแน่?’

ในโลกใหม่นี้ ผู้เล่นสามารถเลือกใช้เผ่าพันธุ์ของสัตว์ได้เช่นกัน แต่ว่าโดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่มักจะเลือกเผ่าหมาป่าเป็นหลัก เขายังไม่เคยได้ยินว่ามีใครเลือกเล่นเผ่าแมวมาก่อน

ขณะนั้นเองเจน่าก็เดินเข้าไปหาผู้อาวุโสและกระซิบอะไรบางอย่าง

ผู้อาวุโสที่เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าจากเจน่าก็หันมาพูดกับอาร์คด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย

มาหาข้าสิเจ้าคนแปลกหน้า ข้าคือหัวหน้าของเผ่าแมว คนที่นี่เรียกข้าว่า ฮัสซาน จริงรึเปล่าที่เจ้าสามารถใช้ทักษะของแมวได้?”

ทักษะของแมวงั้นเหรอ?” 

มันเป็นจิตวิญญาณแข็งแกร่งของแมวที่ใช้สะกดหนูพวกนั้น

อ้อ...ดูเหมือนเธอจะพูดถึงทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวสินะ’ อาร์คคิดในใจก่อนจะตอบคำถาม

ใช่แล้วผมใช้มันได้ ว่าแต่มีปัญหาอะไรรึเปล่า?”  น้ำเสียงของเขากระด้างเล็กน้อย

เขาได้รับบาดเจ็บเพราะเดบรา ส่วนฮาเวสไตน์ก็เสียชีวิตแล้วเขาก็ต้องดิ้นรนพยายามอยู่ภายในถ้ำโดยที่ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องเลวร้ายในโลกแห่งความเป็นจริง แต่เขาก็เริ่มรู้สึกเจ็บปวดอยู่บ้างแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่เกมก็ตาม ดังนั้นสำหรับอาร์คแล้วไม่มีเหตุผลที่เขาจะต้องหาคำดีๆ มาพูดกับผู้อาวุโสร่างอวบนี่เลย

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าฮัสซานจะไม่สนใจเท่าใดนัก เขาเริ่มพูดกับอาร์คอีกครั้ง

เจ้าเรียนทักษะนี้มาจากที่ไหน?”

ผมเรียนมันหลังจากได้รับฉายาพิเศษ” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ

ฉายาฉายาอะไรงั้นรึ?”

มันเป็นฉายาที่เรียกว่า จ้าวแห่งหนู

จ้าวแห่งหนูงั้นเหรอ!

ฮัสซานเบิกตากว้าง หูและหางของเธอตั้งชันขึ้น ราวกับเป็นภาพของแมวอ้วนที่กำลังตกใจถึงขีดสุด แต่นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมด ทั้งมนุษย์แมวและแมวที่ยืนรอบตัวเขาต่างพากันมองตาค้างหลังจากได้ยินคำพูดของอาร์คเช่นเดียวกัน

"นับตั้งแต่ในอดีต ฉายาจ้าวแห่งหนูนั้นจะมอบให้แก่ผู้กล้าหาญที่สังหารปีศาจหนู Black Bear Mouse ได้เท่านั้น และเผ่าพันธุ์ของปีศาจตนนี้ก็ได้สูญหายไปจนหมดแล้ว จะเหลือก็แต่ลูกน้องคนสนิทของเดบรา แล้วเจ้าที่บอกว่าได้ฉายาจ้าวแห่งหนูนี้มา หมายความว่าเจ้าฆ่าลูกน้องคนสนิทของเดบราได้อย่างนั้นเหรอ?" ฮัสซานดูเหมือนไม่ค่อยเชื่อคำพูดของมนุษย์ตรงหน้าสักเท่าไหร่

"ลูกน้องคนสนิทของเดบราเรื่องนั้นผมไม่รู้หรอก แต่ที่แน่ๆ คือผมฆ่าปีศาจหนูก็เท่านั้น"

"เจ้าพูดความจริงใช่มั้ยเจ้าคงไม่ได้เจอของสิ่งนั้นโดยบังเอิญหรอกนะ?"

"คุณหมายถึงสิ่งนี้งั้นเหรอ?" อาร์คหยิบกระดานชนวนออกมาโดยไม่ต้องคิดมาก

มันเป็นไอเท็มที่มีจุดประสงค์เพื่อใช้เปิดประตูสู่ห้องของเดบรา แต่ทันทีที่ฮัสซานเห็นกระดานชนวนชิ้นนี้เขากลับตกตะลึงเป็นอย่างมาก ร่างอวบอ้วนของเธอถึงกับวิ่งตรงเข้ามากอดลูบหัวลูบหางอาร์คอย่างยินดี

"เจ้ามาแล้ว...ในที่สุดเจ้าก็มา! ข้ารู้ว่าท่านต้องมาทรูธซีคเกอร์!" ฮัสซานเอ่ยขึ้นด้วยนำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด

"คุณพูดว่าอะไรนะนั่นมันไม่ใช่แล้ว...อะไรคือทรูธซีคเกอร์?"

อาร์คพูดขึ้นอย่างหงุดหงิด เขาไม่ได้เป็นผู้ชายที่มีความสุขกับการที่ถูกผู้สูงวัยเข้ามาจู่โจมด้วยร่างกายอ้วนกลมแบบนั้นหรอกนะ ชายหนุ่มผลักคนที่กอดตัวเองออกไป ฮัสซานเลยได้แต่ทำท่าเกาหัวด้วยท่าทางเหนียมอายเล็กน้อย

"อ่า...ข้าตื่นเต้นไปหน่อยเลยทำตัวไม่มีมารยาทไปซักนิด ใช่แล้ว...ต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ ท่านอาจจะไม่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่เป็นไร ข้าจะอธิบายให้ท่านฟังเอง"

ฮัสซานกลับมานั่งที่เก้าอี้ของเขาอีกครั้งหนึ่งแล้วเริ่มพูดต่อ

"ตามที่เจ้าได้เห็น พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์สัตว์แห่งเมบัน พวกเราทำงานให้แก่แมวนักปราชญ์และได้รับการยกย่องในเผ่าพันธุ์เป็นอย่างมาก แต่เดิมนั้นโบราณสถานแห่งนี้นับเป็นวิหารที่ทำพิธีกรรมของพวกเรา แต่เมื่อเดบราได้ปรากฎตัวขึ้นพร้อมกับพาเหล่าสัตว์ประหลาดมา พวกมันก็ยึดสถานที่แห่งนี้ไป แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังหวาดกลัวต่อความแข็งแกร่งของเรา เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นเลยขังพวกเราไว้ที่นี่ยังไงล่ะ"

"ขังพวกคุณถูกขังไว้ที่นี่อย่างนั้นเหรอ?" อาร์คถามด้วยสีหน้างุนงง ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าที่นี่เป็นคุกสถานที่ที่นักเวทย์พวกนั้นวาร์ปส่งเขามาสมควรเป็นคุกอย่างนั้นเหรอ?

นั่นคงไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีทางออกใช่มั้ย???

ขณะที่อาร์คกำลังช็อค ฮัสซานก็เริ่มพูดต่ออีกครั้ง

"เพื่อความปลอดภัย เดบรากลัวว่าพวกเราจะหนีออกจากคุกเขาจึงมอบหมายกุญแจให้่ลูกน้องของเขาไป และปิดผนึกมันไว้ในสถานที่อันห่างไกล"

ตอนนั้นเอง อาร์คที่ยืนช็อคอยู่เริ่มดึงสติหันมาสนใจคำพูดของฮัสซานอีกครั้ง

"กุญแจนั่นคงหมายถึงกระดานชนวน..." อาร์คยังคงจำได้ กระดานชนวนอันนั้นใช้ในการเปิดห้องของเดบรา ถ้าอย่างนั้นบางทีสิ่งนั้นอาจเป็นกุญแจที่พวกเขาพูดถึง

ขณะที่อาร์คกำลังพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว ฮัสซานก็กล่าวเสริมความคิดของอาร์คโดยไม่รู้ตัว

"ใข่แล้ว...กระดานชนวนอันนั้นเป็นกุญแจเพียงหนึ่งเดียวที่ใช้เปิดประตูทุกบานในวิหารแห่งนี้ และปีศาจหนู Black Bear Mouse ที่พ่ายแพ้ต่อเจ้าก็เป็นลูกน้องของเดบราที่เอากุญแจหนีไป"

ใบหน้าของอาร์คดูโล่งใจมากขึ้น ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่าตอนนี้เขาไม่มีปัญหาในการที่จะออกจากสถานที่แห่งนี้เลยซักนิด

"ผมเข้าใจสถานการณ์แล้ว แต่ก็ยังมีบางอย่างที่ไม่เข้าใจ"

"ท่านหมายความว่ายังไงรึ?"

"ผมได้ต่อสู้กับเดบราไปครั้งหนึ่ง มันคล้ายกับเป็นอมตะและยังดูแข็งแกร่งอย่างไร้เหตุผล แต่คนแบบนั้นกลับกลัวความแข็งแกร่งของพวกคุณและขังเอาไว้ที่นี่ อีกทั้งยังหาวิธีปิดผนึกโดยการเอากุญแจไปซ่อนในที่ห่างไกลนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่เข้าใจเลย?"

ฮัสซานทำหน้าภาคภูมิใจเมื่อได้ยินคำพูดของอาร์ค

"นั่นเป็นเพราะพวกเราเป็นลูกหลานของวีรบุรุษแห่งเมบันยังไงล่ะ?"

"วีรบุรุษแห่งเมบัน?"

"อ้าว...เจ้าไม่รู้อย่างนั้นรึ?" ใบหน้าของผู้อาวุโสเผ่าแมวเผลอแสดงความผิดหวังขึ้นมาแวบหนึ่ง

"วีรบุรุษแห่งเมบันทั้ง 7 คนได้ปกป้องผืนแผ่นดินให้พ้นจากวิกฤตการณ์อันโหดร้าย ซึ่งหมายความว่าพวกเขานั้นเป็นหนึ่งในนักรบที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดิน และพวกเราก็เป็นเผ่าพันธุ์ที่สืบเชื้อสายของวีรบุรุษแห่งเมบันนั้นมา แต่นั่นไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียวที่ทำให้เดบรานั้นกลัวพวกเรา..."

ใบหน้าของฮัสซานเริ่มคล้ำลงและเริ่มแยกเขี้ยวเล็กน้อยเมื่อคิดถึงเรื่องของเดบรา

"นานมาแล้ว มีนักรบที่ให้ความเคารพนับถือและสานต่อเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบัน พวกเราเผ่าแมวต่างเรียกคนเหล่านั้นว่า ทรูธซีคเกอร์ (Truthseeker) พวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบชักนำผู้คนไปในทางที่ถูกต้อง แต่ว่าการจะเป็นทรูธซีคเกอร์นั้นจะต้องผ่านการทดสอบด่านแรกให้ได้เสียก่อน"

"การทดสอบด่านแรก?"

"ถูกต้อง...วีรบุรุษแห่งเมบันนั้นเป็นผู้กล้าที่เผ่าแมวเคารพนับถือ การที่จะทดสอบคุณสมบัติของคนที่จะสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรบุรุษเหล่านั้นจะต้องได้รับการทดสอบจากเผ่าแมวเป็นขั้นตอนแรก และการทดสอบนั้นคือจะต้องฆ่าศัตรูของเผ่าแมวซึ่งมันก็คือหนูอย่างน้อยหนึ่งหมื่นตัว และนั่นก็ถือเป็นขั้นตอนแรกสู่การเป็นทรูธซีคเกอร์

หนูหมื่นตัว!

นั่นเป็นงานที่ได้จากเควสต์ในหมู่บ้านฮารันที่เขาทำจนเสร็จนี่แต่เขาไม่เคยคาดฝันมาก่อนว่ามันจะเป็นเส้นทางสู่การเป็นทรูธซีคเกอร์

แต่ว่ามันก็ไม่ได้เป็นการทดสอบทั้งหมดหรอกนะ การจะได้ยอมรับในฐานะทรูธซีคเกอร์ที่แท้จริงนั้นต้องโค่นสิ่งที่เป็นศัตรูที่ร้ายกาจยิ่งใหญ่ที่สุดของเผ่าแมวซึ่งก็คือ ปีศาจหนู Black Bear Mouse ให้ได้เสียก่อน ด้วยการกระทำแบบนั้นเจ้าจึงถือว่าเป็นพันธมิตรกับเผ่าแมว จิตใจที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชังที่มีต่อหนูทำให้เจ้าได้รับคุณสมบัติในการเป็นทรูธซีคเกอร์ นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมเจ้าถึงมีความสามารถในการเรียนทักษะของเผ่าแมวยังไงล่ะ” ฮัสซานพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง

ตอนแรกนั้นมนุษย์แมวและบรรดาแมวต่างให้ความสนใจในตัวเขาด้วยสายตาเป็นประกาย แต่พวกเขาก็รู้สึกเบื่ออย่างรวดเร็วจนเริ่มบิดขี้เกียจและหาวออกมาตามใจตัวเอง ซึ่งมันก็ทำให้เห็นว่าพวกแมวนั้นเข้าใจคำที่ว่า “ทำตามใจตัวเองแค่ไหน ยังไงก็ตามอาร์คเริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้อย่างคร่าวๆ แล้ว

นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ข้ารู้ว่า ทรูธซีคเกอร์ เช่นเจ้าจะปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเราสักวันหนึ่ง ตั้งแต่ปีศาจหนู Black Bear Mouse ยังมีชีวิตอยู่ในโลกภายนอกนั่นแล้วมันจะเป็นใครอื่นไปไม่ได้นอกจากลูกน้องคนสนิทของเดบรา

เมื่อฮัสซานพูดจบ หน้าต่างข้อมูลก็กระเด้งขึ้นมา

ดือ-ดือ-ดึ้ง!

คุณได้แก้ไขปัญหาความลึกลับของกระดานชนวนปริศนาได้สำเร็จ
Intelligence เพิ่มขึ้น 10 จุด ค่าชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 100 แต้ม

คุณได้รับค่าสถานะใหม่
ความรู้เรื่องวัตถุโบราณ (+10) : ความรู้ใหม่ของการวิจัยวัตถุโบราณอยู่ในกำมือของคุณแล้ว
โลกใหม่เป็นดินแดนที่มีตำนานและความลับมากมายที่ยังไม่ถูกค้นพบ การเก็บรวบรวมวัตถุโบราณนั้นมีความเป็นไปได้ที่จะทำให้คุณสามารถค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ในโลกนี้อีกทางหนึ่ง
ความรู้ในด้านนี้จะช่วยให้คุณสามารถค้นพบเควสต์ย่อยเมื่อได้รับความไว้วางใจซึ่งอยู่กับสถานการณ์ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับรางวัลมากขึ้น
ค่าสถานะนี้จะไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้ ถ้าหากคุณไม่พบวัตถุโบราณหรือค้นพบความลับที่ซุกซ่อนอยู่ในนั้น ซึ่งจะทำให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นได้


 ‘โอ้วมีโบนัสนี้แบบนี้ด้วยเหรอ?’

อาร์คหุบปากที่อ้าค้างลง เพราะเมื่อเขาคิดถึงอาชีพที่เกี่ยวกับการต่อสู้ ค่าโบนัสสถานะ Intelligence นี้ก็ไม่มีความจำเป็นกับเขาเลยสักนิด แต่มันก็ไม่ได้ว่างเปล่าซะทีเดียวเลยใช่มั้ยตามที่เห็นในข้อความเขายังได้รับค่าชื่อเสียงมา มันทำให้เขารู้สึกเหมือนตัวเองบินได้แล้วก็มีความสุขมากๆ แต่ข้อความก็ยังไม่จบลงที่ตรงนั้น


คุณได้รับข้อมูลเกี่ยวกับบรรพบุรุษของเผ่าแมว วีรบุรุษแห่งเมบัน
ด้วยเหตุนี้ นี่จึงเป็นขั้นตอนแรกสู่การเป็น ทรูธซีคเกอร์ เพื่อเดินตามรอยเท้าของนักรบในตำนานวีรบุรุษแห่งเมบัน คุณสามารถเปลี่ยนอาชีพเป็น ดาร์ค วอล์คเกอร์ (Dark Walker) ซึ่งเป็นอาชีพเฉพาะของ ทรูธซีคเกอร์ (TruthSeeker)

หากคุณเปลี่ยนอาชีพ คุณจะได้เรียนรู้ทักษะที่แท้จริงของ ดาร์ค วอล์คเกอร์ นอกจากนี้มันยังเป็นอาชีพที่มีลักษณะพิเศษ ทำให้อาจมีบางทักษะที่คุณไม่สามารถเรียนร่วมกันได้

คุณต้องการจะเปลี่ยนอาชีพหรือไม่?


'มันเป็นอาชีพที่ได้จากเควสต์ความลับของกระดานชนวน!'

หัวใจของอาร์คเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง

นี่เป็นอาชีพลับที่ซ่อนอยู่ซึ่งเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน

ถึงแม้ว่าเขาจะเล่นเกมออนไลน์มาหลายเกมจนถึงตอนนี้ แต่สำหรับเขาแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นหนึ่งในคนที่ได้อาชีพลับแบบนี้

ส่วนใหญ่แล้วอาชีพลับที่ซ่อนอยู่มักจะให้ค่าสถานะสูงกว่าอาชีพทั่วๆ ไป เพื่อมอบให้เป็นการทดแทนกับความยากลำบากในการค้นหามัน นี่เป็นสิ่งตอบแทนอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีทักษะเฉพาะของอาชีพซึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้เล่นถึงไม่ยอมลงข้อมูลอาชีพลับที่ซ่อนอยู่ในฟอรั่มแม้แต่น้อย

ถึงแม้พวกเขาจะมีความโลภอยากครอบครองข้อมูลที่มากกว่านั้นไว้คนเดียว แต่เหตุผลพวกเขาพยายามซ่อนเอาไว้ยิ่งกว่าก็คือทักษะเฉพาะของอาชีพลับ เมื่อผู้เล่นต่อสู้กับคนอื่นๆ ถ้าฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ถึงฝีมือของอีกฝ่าย มันก็จะช่วยให้พวกเขาชนะคนอื่นได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก

'นี่เป็นโอกาสที่เหลือเชื่อมาก!'

เขารู้สึกตื่นเต้นไปซะทุกอย่าง แต่แล้วพอจิตใจเริ่มสงบลงอาร์คก็เกิดความลังเลเล็กน้อย

ถ้าเขาคิดให้รอบคอบ มันก็ไม่ได้มีแต่สิ่งดีไปทั้งหมด

อาชีพลับนี้เป็นส่วนหนึ่งของอาชีพเฉพาะ จึงมีโอกาสที่การเรียนรู้ทักษะจะขาดความสมดุลโอนเอียงไปที่ด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าคนที่อยากเป็นนักเวทย์เขาก็ต้องหาอาชีพลับของนักเวทย์ที่ซ่อนอยู่ แล้วพวกเขาได้รับพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาล

แต่ถ้าหากผู้เล่นสายนักรบเกิดไปได้อาชีพนักเวทย์ที่ซ่อนอยู่ มันจะไม่ได้เป็นแค่สถานการณ์เลวร้ายเท่านั้น แต่ในที่สุดตัวละครตัวนั้นก็จะเป็นตัวละครที่ขาดความแข็งแกร่งเป็นหนึ่งเดียวกันหรืออาจจะมีความเป็นไปได้ที่น้อยมากที่ตัวละครนั้นจะสู้กับผู้เล่นคนอื่นได้

เพราะว่าผู้เล่นไม่ได้แชร์ข้อมูลกันเลยทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะตรวจสอบรายละเอียดก่อนที่จะเปลี่ยนอาชีพ

'มันเสี่ยงมาก อ๊าคคคคคอาร์คแทบจะขยุ้มหัวตัวเองระบายความเครียด

ถ้าเขาทำพลาดแค่ครั้งเดียว ทุกอย่างก็จะจบ

แต่ว่าการปฏิเสธอาชีพลับที่ถูกซ่อนอยู่หลังจากผ่านอะไรมาตั้งเยอะแยะแบบนี้มันก็ดูรันทดเกินไปแล้ว
เขามาไกลถึงขนาดนี้ ต้องลำบากลำบนทำเควสต์ที่แทบเป็นไปไม่ได้ทั้งๆ ที่มีเลเวลแค่ 15 ถ้ามันมีอาชีพลับให้เปลี่ยนแบบนี้ ต้องหมายความมันเป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถทั้งหลายทั้งแหล่ที่เขากระเสือกกระสนทำมาขนาดนั้นเลย แล้วมันจะเป็นอาชีพที่มีความสามารถพิเศษหรือทักษะที่กระจอกๆ อย่างนั้นเหรอ...

ถึงแม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันเป็นอาชีพอะไรก็ตาม แต่แค่ชื่อของมัน...ตั้งแต่ที่เธอบอกว่าวีรบุรุษแห่งเมบันเป็นนักรบในตำนานมันจะไม่เกี่ยวกับการต่อสู้หรอกเหรอใช่แล้วฉันเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนั้น!’

ในที่สุดหลังจากที่เขาลังเลอยู่นานอาร์คก็ตะโกนขึ้น “ผมต้องการเปลี่ยนอาชีพ!

ฉับพลันนั้นร่างของอาร์คก็ถูกล้อมรอบไปด้วยแสงสว่างที่แผ่กระจายออกมาอย่างสวยงามตระการตา


ชื่อตัวละคร
อาร์ค (Ark)
เผ่าพันธุ์
มนุษย์
ธาตุ
ไม่มี
ชื่อเสียง
250
ระดับ
16
อาชีพ
Dark Walker
ฉายา
Mouse Hunter (นักล่าหนู)
เลือด
360
มานา
100
โจมตีกายภาพ
67
คล่องแคล่ว
77 (+2)
พลังกาย
67
โจมตีเวทย์
16
ป้องกันเวทย์
27
โชค
17
ค่าสถานะพิเศษ : ความรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณ (10)
เอฟเฟคของอุปกรณ์สวมใส่
ดาบแสงประกาย : ความเร็วในการโจมตี+5
ชุดเกราะหนัง Black Bear Mouse : ความคล่องแคล่ว+2ความต้านทานความหนาวเย็น +20






















เอ๊ะนั่นเป็นแสงสว่างที่ดีต่อสายตาของเจ้านะ มันเป็นแสงที่ได้รับความแข็งแกร่งจากเผ่าแมวที่แสดงให้เห็นว่าเจ้าได้เข้าสู่หนทางแห่งการเป็นทรูธซีคเกอร์แล้ว ข้าชอบมันมาก ทรูธซีคเกอร์นั้นเป็นสหายกับเผ่าแมวมานานแสนนานแล้ว และตอนนี้เจ้าก็คือสหายของเรานอกจากนี้เจ้ายังเป็นคนที่กำจัดปีศาจหนู Black Bear Mouse และยังนำกระดานชนวนมายังเผ่าเรา ข้าขอขนานนามเจ้าเป็นอัศวินผู้ทรงเกียรติและขอเรียกว่า ‘อัศวินแมว!’

ฮัสซานยิ้มอย่างพออกพอใจพลางแกว่งหางไปมา


คุณได้รับฉายา อัศวินแมว จากผู้อาวุโสเผ่าแมวฮัสซาน
ในฐานะที่คุณเป็นอัศวินแห่งแมว เมื่อต่อสู้กับหนู พลังโจมตีเพิ่มขึ้น 75และมีโอกาสระเบิดจนเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 50ความเสียหายจากการโจมตีลดลง 50(มอนสเตอร์ที่มีขนาดเล็กก็สามารถลดความเสียหายจากการโจมตี 50เช่นเดียวกัน)
*โบนัสจากฉายา เพิ่มค่าสถานะทั้งหมด 2 จุด (All status+2)
*ชื่อเสียงเพิ่มขึ้น 150
*คุณจะได้รับคุณสมบัติของเผ่าแมว (ความสามารถ+30เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก)
*มีความเป็นไปได้ที่จะสื่อสารด้วยภาษาแมวกับแมวทั้งหมดในดินแดน
*ความเสียหายจากการล้มลดลง 50%

ทักษะเฉพาะอัศวินแมว จิตวิญญาณแห่งแมวถูกเพิ่มเป็นระดับสูงสุด
จิตวิญญาณแห่งแมว (ขั้นสูง) : เสียงแมวคำรามและสายตาที่คมกริบทำให้มอนสเตอร์ขนาดเล็กตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวและเป็นอัมพาตเป็นเวลา 1 นาที พลังโจมตีและพลังป้องกัน กำลังใจในการต่อสู้ลดลง 30(ในกรณีของมอนสเตอร์ขนาดเล็กถึงแม้ว่ามันจะเป็นบอสมอนสเตอร์ก็ยังแสดงผล 50เช่นเดียวกัน)

ใช้มานา : 120




คุณได้เรียนรู้ทักษะใหม่
นัยน์ตาแห่งแมว (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
คุณสามารถแทรกซึมและมองผ่านความมืดด้วยดวงตาของเมว นอกจากนี้คุณยังสามารถมองพลังชีวิตของฝ่ายตรงข้าม มานา และจุดอ่อนได้เป็นระยะเวลา 3 นาที
(+การมองเห็นในที่มืด+การตรวจสอบพลังชีวิต+การรับรู้จุดอ่อน)

ใช้มานา : 50

อาร์คมองหน้าต่างข้อมูลตาค้าง

ค่าสถานะของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเลยแม้จะเปลี่ยนอาชีพแล้วก็ตาม มีเพียงมานาที่เพิ่มขึ้นไป 50 จุดซึ่งมันก็ได้จากการแก้ปัญหาความลับของกระดานชนวน พร้อมกับค่าโจมตีเวทย์ที่เพิ่มขึ้น 10 จุดส่วนสิ่งที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดคือเขาได้เรียนสกิลนัยน์ตาของแมว และยกระดับสกิลจิตวิญญาณแห่งแมวเป็นขั้นสูงเท่านั้นเอง

ไม่-ไม่มีทาง!

อาร์คร้องโหยหวนอยู่ภายในใจ ถึงแม้อาชีพทั่วไปจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่การเปลี่ยนอาชีพก็จะทำให้ได้รับโบนัสค่าสถานะอย่างน้อย 30 จุด

ทักษะเฉพาะก็เช่นเดียวกัน แม้ว่าจะเป็น Warrior ที่มีสกิลน้อยกว่า Magician 4-5 สกิลก็ตามแต่พวกเขาก็ไม่ได้เจอกับอะไรที่บัดซบแบบนี้

ราวกับว่าไม่รู้สึกถึงออร่าดำทมึนของอาร์ค ฮัสซานจึงแสดงความยินดีต่อไป

โฮ่ะ โฮ่ะ โฮ่ ข้าเห็นการแสดงของออกเจ้า มันดูเหมือนว่าเจ้ากำลังตกใจอยู่ อาจจะเป็นเพราะได้สืบทอดเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบันสินะ

นี่มัน...ไอ้วายร้าย ฉันถูกหลอกเพราะไอ้บ้านี่พูดถึงวีรบุรุษแห่งเมบันหรืออะไรพรรคนั้นใช่มั้ย…!’

อาร์คคร่ำครวญอยู่ในใจพลางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก

นี่คืออะไรถึงผมจะตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ในฐานะของทรูธซีคเกอร์ แต่มันก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลย!” ชายหนุ่มระเบิดความโกรธใส่ฮัสซานที่ยังทำหน้าแป้นแล้นใส่เขาอยู่

อ๊ะ...เจ้าต้องการทั้งหมดสินะ?” ฮัสซานกล่าวขึ้นเมื่อคิดได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีคนเปลี่ยนเป็นอาชีพนี้

จริงๆ แล้ววิหารแห่งนี้เป็นสถานที่ปกป้องสมบัติของวีรบุรุษแห่งเมบันที่มีไว้มอบให้กับทรูธซีคเกอร์ ซึ่งสมบัตินั้นจะทำให้ทรูธซีคเกอร์มีความแข็งแกร่งเพื่อจะสืบสานเจตนารมณ์ของวีรบุรุษแห่งเมบันได้

นั่นหมายความว่าถ้าฉันได้รับไอ้มรดกตกทอดนั่นก็จะทำให้การเปลี่ยนอาชีพของฉันเสร็จสมบูรณ์ใช่มั้ย?’ ข้อมูลใหม่ที่ได้รับทำให้เขาถึงกับหูผึ่ง

อาร์คถามด้วยน้ำเสียงร้อนรน “แล้วสมบัติที่ว่ามันอยู่ที่ไหนล่ะ?”

เดบราตามหาสมบัตินั่นเป็นเวลานานมาแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงยึดวิหาร...

งั้นเหรอ แล้วสมบัติอยู่ที่ไหน!

ตั้งแต่ที่ไอ้บ้านั่นยึดวิหารไป แน่นอนว่ามันก็เก็บสมบัติไว้ครอบครอง

อะไรนะ?” อาร์คถึงกับหน้าซีด

เขามีประสบการณ์กับพลังของเดบรามากมาย ถึงแม้ฝ่ายตรงข้ามจะเป็นอัศวินที่แข็งแกร่งก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้แม้ว่าจะโจมตีพร้อมกันทั้งหมดก็ตาม หรือไม่ มันก็เป็นอมตะ ทำไมเขาต้องจัดการเดบราแล้วเอาสมบัติที่เป็นมรดกนั่นกลับมาด้วย?

ยังไงก็ตามฮัสซานตอบเขาด้วยสีหน้าที่มั่นใจ

ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่าเจ้าพบกุญแจที่สำคัญนี่แล้ว เดบราก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป อย่างที่ข้าบอก ไอ้สารเลวนั่นขังพวกเราไว้เพราะมันกลัวพวกเราด้วยวิธีสกปรกนั่น เพราะว่าพวกเราเป็นลูกหลานของเมบัน มันมีปัญหานิดหน่อยจากตอนแรกน่ะ

มันคืออะไรน่ะ?” อาร์คเริ่มงงกับคำพูดของแมวอาวุโสตัวนี้เป็นอย่างมาก

พวกเราเป็นศัตรูกันโดยธรรมชาติน่ะ” ฮัสซานแยกเขี้ยวพลางแสยะยิ้มอย่างชั่วร้าย


คุณได้พบเผ่าแมวที่ถูกเดบราผู้บิดเบือนความฝันกักขังเอาไว้ คุณต้องร่วมมือกับพวกเขาเอาชนะเดบราและเอาสมบัติของวีรบุรุษแห่งเมบันกลับคืนมา
ระดับความยาก +E
ข้อกำหนด : เฉพาะผู้เล่นที่ได้รับฉายาอัศวินแมวเท่านั้น



 ***



"กุญแจ กุญแจอยู่ที่ไหน!" เดบรากรีดร้องขณะที่มันเดินผ่านกองซากศพของเหล่าอัศวิน

ตอนนั้นเองประตูหินที่ตั้งอยู่บริเวณมุมของห้องโถงก็เปิดออก ร่างของอาร์คก้าวกลับเข้ามาข้างในห้องโถงอีกครั้ง

"แกกำลังหากุญแจนี่อยู่รึเปล่า?"

สถานที่ที่พวกแมวถูกขังนั้นอยู่ใต้ห้องโถงแห่งนี้เพียงเท่านั้น

เดบราเผลอก้าวถอยหลังเมื่อเห็นสายตาของอาร์ค

"ได้ยังไง...พวกแกมาที่นี่ได้ยังไง?"

"เพราะกุญแจอยู่กับชั้นยังไงล่ะ"

พูดจบอาร์คก็หยิบกระดานชนวนออกมาจากกระเป๋าของเขา ทันทีที่เดบราเห็นมันดวงตาของปีศาจตนนั้นพร่ามัวราวกับคลุ้มคลั่ง

มันจ้องมองอาร์คสายตาด้วยแสดงความหวาดกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่อาร์คเพียงแค่มองเดบราด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเพียงเท่านั้น เมื่อเดบราขยับพุ่งตัวโผล่มาด้านหน้าจนแทบจะติดปลายจมูกของอาร์ค ชายหนุ่มก็ตะโกนเสียงดังด้วยแรงทั้งหมดทันที

"จิตวิญญาณแห่งแมว!!!"

เมี๊ยวววววววว!

รูปร่างของแมวตัวสีดำปรากฏขึ้นเหนือหัวพร้อมกับเสียงกรีดร้องแหลมสูง

หลังจากที่เขากลายเป็นอัศวินแมว ทักษะนี้ก็ขึ้นไปถึงระดับสูงและรูปร่างของแมวตัวสีดำนี้ก็ใหญ่เป็น 5 เท่าจากเดิมที่เป็นระดับกลาง

ด้วยขนาดตัวของแมวดำที่ใหญ่จนเกือบจะเท่าสิงโต เพียงแค่มันตวัดนัยน์ตาสีทองจับจ้องเดบราอย่างถมึงถึง ร่างของเดบราถึงกับชะงักกึกและสั่นสะท้านพลางมองมาที่อาร์คอย่างไม่เชื่อสายตา

"คุ-คุ คุ! เจ้าเป็นมนุษย์ ทำไมเจ้าถึง..."

สิ่งที่ฮัสซานพูดไว้เป็นความจริงทั้งหมด

"ตอนนี้แหละทุกคน โจมตีเจ้าสัตว์ประหลาดชั่วร้ายนี่เลย!"

ม๊าว ม๊าววว เมี๊ยวววววว!

ทันทีที่อาร์คตะโกนขึ้น แมวร้อยกว่าตัวก็กระโจนลงมาจากด้านหลังประตูหินกระโดดผ่านช่องว่างออกมาอย่างรวดเร็วพลางยืนล้อมรอบเดบราแล้วใช้เขี้ยวและกรงเล็บตวัดกรีดไปทั่วร่างของมัน เดบราสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวดพลันกรีดร้องโหยหวน ขณะนั้นเองเสื้อคลุมสีดำของมันที่แกว่งสะบัดไปมาได้หลุดร่วงลงไปกองอยู่ที่พื้น

ในที่สุดมันก็เผยร่างที่แท้จริงออกมา!

ร่างของมันถูกล้อมรอบไปด้วยฝูงแมวแมว ฮันซานคิดไว้อยู่แล้วว่าร่างกายของเดบราต้องมีอะไรซุกซ่อนอยู่ ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิดไม่มีผิด

เดบราคือเกรมลินพลังของมันคือการใช้คาถาในการสร้างภาพลวงตา

นั่นเป็นเหตุผลที่มันได้นำพาโรคร้ายและความอดอยากมายังดินแดนแจ็คสันและไม่สามารถหาวิธีแก้ไขได้ แต่ว่ามันกลับกลัวศัตรูโดยธรรมชาติที่เป็นเพียงมอนสเตอร์ขนาดเล็กอย่างแมวหรือมนุษย์แมวก็ตาม

มันกลัวว่าร่างกายที่แท้จริงจะถูกเปิดเผย ถึงขนาดหาวิธีปิดผนึกวิหารแห่งนี้โดยการนำกุญแจไปซ่อนไว้ในที่ห่างไกลและซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้โดยการสร้างภาพลวงตาขึ้นมาด้วยเหตุผลเดียวกัน

บรรดาอัศวินที่ต่อสู้กับภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นไม่ได้ตระหนักถึงข้อเท็จจริงนี้แม้แต่น้อย พลังชีวิตของมันแทบจะไม่ลดลงราวกลับเป็นอมตะ กลิ่นอายของความน่าสะพรึงกลัวที่สะกดให้เหล่าอัศวินหวาดกลัวนั้นแทบจะหายไปจนหมด ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็เป็นภาพลวงตาที่ถูกสร้างขึ้นเช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงใช้เวทย์มนต์ในการชำระล้างไม่ได้ผล

ไม่อยากจะเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันเป็นแค่มอนสเตอร์ตัวเล็กแค่นี้เอง

แก...ไอ้เลว...ทำไมมนุษย์ถึงใช้ทักษะของแมวได้?” เดบราที่เดินเซไปเซมาจ้องมองมาที่อาร์คไม่วางตา

ไอ้หนูบ้าขี้ขลาด แกยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าเขาเป็นทรูธซีคเกอร์

ฮัสซานยิ้มหวานพลางฉีกกระชากร่างกายที่เป็นภาพลวงตาของเดบราออกจากร่างจริง โดยที่มันไม่สามารถจะหลบหนีได้เลยเพราะฝูงแมวที่ล้อมรอบปิดกั้นทางหนีจนหมด

อะ...อะไรกันไม่มีทาง...” เดบราร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก

มันหมายความว่า เขาเป็นเจ้าของพลังตัวจริงที่แกอยากได้จนตัวสั่นยังไงล่ะ

หะ...หุบปากนั่นมันเป็นพลังของข้าข้าจะไม่มีทางมอบมันให้กับใครก็ตาม!” เดบรากรีดร้องอย่างรุนแรงพลางวิ่งตรงมาหาอาร์ค

ด้วยทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวขั้นสูงที่ถูกเรียกใช้นั้น ถึงจะเป็นบอสอย่างเกรมลินมันก็ยังแสดงผลถึง 50%  แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เป็นอัมพาตโดยสมบูรณ์แต่ก็ทำให้การเคลื่อนไหวของเดบราช้าลงเป็นอย่างมาก

อาร์คเจ้าปีศาจนั่นใช้พลังแห่งความฝันไม่ได้ตอนที่ข้าจับร่างปลอมนี่ไว้อยู่ พวกเราจะสู้กับร่างปีศาจนี้เอง รีบจบเรื่องบ้าๆ นี้ซะที พวกเราทุกคนโจมตีพร้อมกันเลย!

แม๊ว ม๊าวว เมี๊ยววว!

ฝูงแมวและมนุษย์แมวต่างคำรามออกมาโดยปราศจากความกลัวพลางรุมโจมตีร่างปลอมของเดบราอย่างต่อเนื่อง

ไม่มีทางที่จะได้อยู่เฉยๆ แล้วผ่านเควสต์ไปอย่างง่ายๆ ในโลกนี้เลย เขาคิดว่าเขาจะได้รับผลตอบแทนหลังจากเปิดโปงร่างกายของเดบราด้วยการช่วยเหลือของพวกแมว แต่สุดท้ายแล้วการต่อสู้กับเดบราก็ยังเป็นความรับผิดชอบของเขาอยู่ดี

อาร์คเตะสวนร่างของเดบราที่พุ่งชาร์จเข้ามาแล้วเหวี่ยงดาบใส่มันอย่างรุนแรง

ย๊ากกกกกก!

คมดาบปะทะเข้ากับร่างของเดบรา มันล้มลงทันที

ตอนที่อาร์คต่อสู้กับ Black Bear Mouse ที่เป็นลูกน้องของมัน ดาบของเขาแทบจะแทงไม่ทะลุผิวหนังของมันได้เลย แต่เดบรากลับได้รับบาดเจ็บเป็นอย่างมาก นอกจากนี้การใช้ทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวยังทำให้มันช้าลง ตอนที่มันอยู่ด้านในร่างปลอมยังทำให้รู้สึกเหมือนเป็นอมตะ แต่ตอนนี้ร่างปลอมที่สร้างจากภาพลวงตาของมันถูกแยกออกไปทำให้มันยิ่งอ่อนแอกว่าลูกน้องตัวเองเสียอีก

ถ้าแค่นี้ชั้นก็น่าจะสู้กับมันได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม!’

อาร์คจ้องมาไปทางเดบราตาแทบไม่กระพริบแล้วเรียกใช้สกิลทันที

นัยน์ตาแห่งแมว!

ทันทีที่ทักษะถูกใช้ นัยน์ตาของอาร์คก็กลายเป็นสีทองอ่อนๆ

พลังชีวิตปรากฏขึ้นเหนือหัวของเดบรา และจุดสีแดงก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายของมันเช่นเดียวกัน มันเป็นจุดอ่อนของเดบราที่เขารับรู้ได้ด้วยนัยน์ตาของแมว ถ้าเขามุ่งโจมตีไปที่จุดสีแดงนี้จะทำให้พลังโจมตีรุนแรงมากขึ้น รวมถึงมีโอกาสสูงที่จะทำให้มันเข้าสู่ขั้นวิกฤต

มันเป็นทักษะที่เหมาะกับสไตล์การต่อสู้ของอาร์ค!

ย๊ากกกกก!

อาร์คหมุนไปรอบเดบราและแทงดาบของเขาอย่างต่อเนื่อง

ทุกครั้งที่เขาทำแบบนั้น เดบราจะส่ายตัวอย่างบ้าคลั่ง มันเหวี่ยงไม้เท้าของมันกระแทกบนพื้นแข็ง เวลา 1 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็วและผลของทักษะจิตวิญญาณแห่งแมวก็น่าจะหมดลง แต่ว่าบอสตัวนี้ก็ยังไม่สามารถโจมตีอาร์คได้แม้แต่น้อย

ทำไมสิ่งที่พวกเขาเรียกกันว่าบอสถึงอ่อนขนาดนี้หรือเพราะว่าร่างที่เป็นภาพลวงตาของมันถูกแยกออก?’

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นทำให้อาร์คสับสนเป็นอย่างมาก ซึ่งความจริงแล้วมันเป็นเพราะความสามารถของตัวเองที่เขายังไม่ได้รับรู้ ด้วยคุณสมบัติของเผ่าแมวที่ได้รับจากการเปลี่ยนอาชีพทำให้ความสามารถของเขาเพิ่มขึ้นถึง 30เมื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์ขนาดเล็ก นั่นหมายความว่าระดับเลเวล,พลังโจมตี,พลังป้องกัน และทักษะอื่นๆ ที่ส่งผลต่ออาวุธนั้นถูกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ถึงแม้ว่าอาร์คจะมีเลเวลอยู่ที่ 16 แต่เขากลับโจมตีรุนแรงราวกับเลเวล 25 นอกจากนั้นเดบรานั้นยังเป็นสายนักเวทย์ แล้วนักเวทย์นั้นก็ทำได้เพียงป้องกันสกิล มันเลยเป็นบอสเกรมลินที่แทบจะไม่แตกต่างจากเกรมลินธรรมดาเลย การเป็นบอสนั้นแค่ทำให้มันมีความสามารถเพิ่มขึ้นเท่านั้น อาร์คจึงสู้กับมันตัวคนเดียวได้อย่างสบายๆ

ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นมาก

ร่างกายของเขาเบาโหวงแล้วมันก็ไม่รู้สึกรำคาญเลยที่ต้องเหวี่ยงดาบไปมา

อาร์คจู่โจมกดดันเดบราที่เป็นศัตรูอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่เขาฟาดฟันไปยังจุดสีแดง พลังชีวิตของมันก็จะลดลงทีละนิด หลังจาก 10 นาทีผ่านไปร่างกายของมันก็กลายเป็นสีแดง

มันกำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤต!

แน่นอนว่าไม่ว่าทักษะของเขาจะสูงขนาดไหน แต่เขาก็ไม่สามารถหลบการโจมตีทั้งหมดได้ บางครั้งเขาโดนโจมตีและพลังชีวิตก็ลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง แต่มานาที่แทบจะหมดหลอดก็กลับมาเต็มเปี่ยมพอสำหรับใช้สกิลอีกครั้ง

ดวงตาของอาร์คเป็นประกาย

จิตวิญญาณแห่งแมว!

เสียงคำรามแหลมคมราวกับแทงทะลุผ่านไปยังร่างของเดบรา

ร่างกายของมันหดเกร็งอย่างเชื่องช้าอีกครั้งหนึ่ง อาร์คงอร่างกายของเขาให้ต่ำลงเพื่อหลบขาหน้าที่เหวี่ยงมาแล้วต่อยสวนกลับไปที่ขาของมันอย่างรวดเร็ว ขาของเดบราหักกร็อบอย่างง่ายดาย ร่างของมันเซล้มไปทางด้านหนึ่งทันที

อาร์คแทงดาบเข้าไปที่คอของเดบราอย่างเต็มเปา

นี่คือจุดจบของแก เดบรา!


คุณจัดการเดบราได้สำเร็จ!


ดาบที่แทงคอของเดบรานั้นทำให้มันได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก ร่างของมันสั่นเทาลิ้นตกห้อยออกมา ขณะที่ร่างของมันและภาพลวงตาค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ นั้นเอง

ข้าแพ้แล้ว!’

แล้วร่างของมันก็สลายหายไปจนหมดสิ้น

ถึงแม้ว่าระดับทักษะที่แท้จริงของมันนั้นจะไม่ต่างจากปีศาจหนู แต่เดบราก็เป็นบอสมอนสเตอร์ที่มีระดับสูงมาก ตามความจริงแล้ววิหารแห่งนี้ก็เป็นที่สถานที่ซึ่งให้คนทั่วไปเข้ามาได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถจัดการเดบราได้เลย นี่จึงเป็นครั้งแรกจากทั้งหมด สาเหตุเพราะมันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำลายภาพลวงตาของเดบราถ้าหากไม่มีกระดานชนวน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเควสต์ถึงระบุว่ามีเพียงอัศวินแมวเท่านั้นที่สามารถทำมันได้

ยังไงก็ตาม...การจัดการกับเดบราเพียงแค่ครั้งเดียวทำให้ระดับเขาเพิ่มขึ้นถึง 3 เลเวล และข้อความที่บอกว่าเขาได้เสร็จสิ้นเควสต์เอาชนะเดบราแห่งความฝันก็ได้ปรากฎขึ้นมาเช่นเดียวกัน ทำให้ระดับของเขาเพิ่มอีก 1 กลายเป็นว่าเขามีเลเวลอยู่ที่ 20

ในที่สุดพวกเราก็ได้แก้แค้นเดบรา เจ้าคือผู้มีพระคุณของเรานี่เป็นของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อแสดงความจริงใจของพวกเรา” ฮัสซานเดินเข้ามาหาเขาพลางยื่นถุงมือที่ปกคลุมด้วยปุยขนสีขาวซึ่งยาวไปถึงข้อศอกให้แก่อาร์ค

ฝูงแมวและมนุษย์แมวต่างเปล่งเสียงร้องพลางกระโดดโหยงเหยงไปมาอย่างยินดี

ในขณะที่พวกแมวนั้นไม่เหลือเค้าความตึงเครียดใดๆ อาร์คกลับได้แต่ยิ้มอย่างบิดเบี้ยวแล้วเริ่มตรวจสอบผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น

เสื้อคลุมซึ่งมีแสงสีแดงเข้มตกอยู่บริเวณที่ร่างปลอมซึ่งเป็นเป็นภาพลวงตาได้หายไป  ส่วนตรงร่างของเดบรานั้นมีกระจกมีอัญมณีประดับเพชรและลูกแก้วห้าสีตกอยู่

หน้าต่างข้อมูล!


Cat Paws (rare) [กรงเล็บแมว]
ประเภทชุดเกราะ/อาวุธ
ถุงมือหนังสนับมือ
พลังโจมตี
9~15
ความทนทาน
50/50
น้ำหนัก
5
การจำกัด
อัศวินแมวเท่านั้น

มันเป็นชุดเกราะและอาวุธที่ผู้เอาวุโสแมวฮัสซานได้มอบให้กับคุณ มีความอ่อนนุ่มดังเช่นถุงมือปกติ แต่ในระหว่างต่อสู้กรงเล็บที่แหลมคมจะกางออก เพียงแค่ใส่มันไว้ก็ทำให้คุณมีความคล่องตัวและความเฉียบคมเช่นเดียวกับแมว

คุณสมบัติ : เพิ่มความเร็วในการโจมตี 10%, ความคล่องตัวเพิ่มขึ้น 15%, อัตราการเกิดคริติคอลเพิ่มขึ้น 10%  (Atk speed+10%, Agility+15%,Cri rate+10%)

Blood-Red Mantle of Dreams (Rare) [เสื้อคลุมสีแดงเลือดแห่งความฝัน]
ประเภทชุดเกราะ
เสื้อคลุม
พลังป้องกัน
70
ความทนทาน
50/50
น้ำหนัก
10
การจำกัด
เลเวล 20

เสื้อคลุมคำสาปที่ถูกสร้างขึ้นจากการทักถอฝันร้ายของผู้คนจำนวนมาก ผู้สวมใส่จะได้รับคำสาป – สติจะพร่ามัว การเคลื่อนไหวจะเชื่องช้าเป็นการแลกเปลี่ยน ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อวัน คุณสามารถใช้พลังสาปแช่งไปยังศัตรูและทำให้พวกเขาตกอยู่ในฝันร้าย

คุณสมบัติ : สถานะทั้งหมด -15 (All status-15)

คุณสมบัติพิเศษ : คุณสามารถใช้พลังของภาพลวงตาในการห่อหุ้มร่างกายเพื่อฟื้นพลังชีวิตกลับมาเต็ม 100และทำให้อยู่ในสถานะอมตะเป็นเวลา 10 วินาที (ใช้ได้เฉพาะกลางคืนเท่านั้น) - ใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อวัน

ลูกแก้วห้าสี : ลูกแก้วนี้เต็มไปด้วยพลังอันแข็งแกร่งส่วนหนึ่งของวีรบุรุษแห่งเมบัน



กระจกประดับอัญมณี : ไอเท็มเริ่มต้นสำหรับเควสต์เลเวล 40

ฉันเจอแจ็คพอตแล้ว!’

สิ่งตอบแทนหลังจากเอาชนะเดบราซึ่งเป็นเควสต์นั้นมีความเป็นไปได้ที่เขาจะได้รับไอเท็มที่พิเศษ แต่ถึงอย่างนั้นการที่เขาได้รับเสื้อคลุมมานั้นก็ถือเป็นผลลัพธ์ที่มีค่ามาก

สิ่งที่เขาได้รับเป็นแรร์ไอเท็มในโลกใหม่ซึ่งเป็นเกมที่เพิ่งเปิดให้บริการมาแค่สองเดือนนั่นก็แทบจะเหมือนกับการพยายามคว้าดาวที่อยู่บนท้องฟ้า ถึงจะน่าเสียดายมีจุดที่ไม่ดีอย่างการหักค่าสถานะ แต่เมื่อดูคุณสมบัติพิเศษของมันก็เหมือนมันจะมีมูลค่ามหาศาล

แล้วเขาก็ยังจะได้รับรางวัลของรางวัลอีกทีหนึ่งด้วย

ตอนนี้เควสต์ที่ฉันต้องทำก็มีแค่ออกไปส่งข่าวแค่นั้นเอง

มันก็คือเควสต์ที่เขาได้รับจากฮาเวสไตน์ซึ่งจะเสร็จสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อเขาได้ออกจากวิหารแห่งนี้

แต่ก่อนหน้านั้น ฉันมีสิ่งที่ต้องทำก่อน

อาร์คคว้าลูกแก้วห้าสีมาจรดชิดหน้าผาก พริบตานั้นเองลูกแก้วพวกนั้นก็เปล่งแสงสว่างทั้งห้าสีออกมาล้อมรอบตัวของอาร์ค


ชื่อตัวละคร
อาร์ค (Ark)
เผ่าพันธุ์
มนุษย์
ธาตุ
ไม่มี
ชื่อเสียง
300
ระดับ
20
อาชีพ
Dark Walker
ฉายา
Mouse Hunter , อัศวินแมว
เลือด
470 (+100)
มานา
170 (+100)
โจมตีกายภาพ
79 (+5)
คล่องแคล่ว
89 (+17)
พลังกาย
89 (+5)
โจมตีเวทย์
29 (+5)
ป้องกันเวทย์
18 (+5)
โชค
19 (+15)
พลังจิตวิญญาณ
0 (+100)
ค่าสถานะพิเศษ : ความรู้เกี่ยวกับวัตถุโบราณ (10)
เอฟเฟคของอุปกรณ์สวมใส่

ดาบแสงประกาย : ความเร็วในการโจมตี+5
ชุดเกราะหนัง Black Bear Mouse : ความคล่องแคล่ว+2ความต้านทานความหนาวเย็น +20

*ความสามารถทั้งหมดจะเพิ่มขึ้น 20เมื่ออยู่ในความมืด
*ความสามารถในการหลบซ่อนตัวในที่มืดถือกำเนิดขึ้น (ใช้ได้ 10 นาที เมื่อต่อสู้จะถูกยกเลิก)
*ความต้านทานต่อความหวาดกลัว,ความมืด,สถานะตาบอด,และมนต์เสน่ห์เพิ่มขึ้น 50%
*คุณสามารถใช้ความสามารถที่แท้จริงได้กับอาวุธทุกประเภท



คุณได้เรียนรู้ทักษะอาชีพใหม่
Dark Blade (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
ใช้ดาบที่ดูดซับอาบไปด้วยความมืดของคุณจัดการกับฝ่ายตรงข้ามอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ดาบที่หลอมรวมกับความมืดนั้นเมื่อใช้โจมตีจะไม่สนใจการป้องกันทางกายภาพทั้งหมด พลังความรุนแรงของการโจมตีคริติคอลเป็น 150ไม่สนใจการป้องกัน
ใช้มานา : 100 (มีโอกาส 1ในการฆ่าโดยทันทีถ้าคุณใช้ Dark Blade โจมตีใส่ศัตรูการด้วยติดคริติคอลขณะที่ใช้สกิลนัยน์ตาแห่งแมว)

คุณได้เรียนรู้ทักษะอาชีพใหม่
อัญเชิญปีศาจ (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลใช้งาน)
คุณสามารถเรียกปีศาจชั้นต่ำที่เดินทางระหว่างภพกลางและนรกได้ 3 ตัว ปีศาจที่ถูกซัมมอนจะมีระดับอยู่ที่ 1 และใช้มานาของผู้เล่น หากมันตายจะถูกส่งตัวกลับไปยังโลกเดิม ขณะเดียวกันพลังชีวิตของคุณจะถูกหัก 50จากทั้งหมดและไม่สามารถซัมมอนใหม่ได้อีกภายใน 24 ชั่วโมง
ใช้จิตวิญญาณ : 100



***



จากพ่องั้นเหรอ...” เด็กหนุ่มกุมสร้อยคอสีเงินที่เปื้อนเลือดเอาไว้แน่น

อาร์คมองด้วยสายตาโศกเศร้า

หลังจากที่เขาจัดการเดบราได้แล้วอาร์คก็ได้รวบรวมเหล่าอัศวินที่รอดชีวิตซึ่งกระจายอยู่ในวิหารพาส่งกลับมายังปราสาทแจ็คสัน แล้วจึงเอาสร้อยเงินมาให้ลูกชายของฮาเวสไตน์ที่มีอายุเพียง 15 ปีคนนี้นั่นเอง

เด็กชายที่จะกลายมาเป็นลอร์ดต่อจากฮาเวสไตน์นั้นไม่มีน้ำตาแม้แต่น้อย เขาเพียงแค่จ้องมองสร้อยด้วยดวงตาที่แดงก่ำและส่งเสียงขลุกขลักในลำคอแค่ไม่กี่ครั้ง

เขาเป็นเด็กที่เข้มแข็ง

อาร์ค พ่อของข้าจากไปอย่างมีเกียรติใช่มั้ย?”

ใช่...เขากล้าหาญกว่าใคร แล้วก็ยังเป็นคนที่รักลูกชายของเขาอย่างแท้จริง

“...ขอบคุณ” ท่านลอร์ดน้อยพยักหน้าและมองมาที่อาร์ค

อาร์ค...เจ้าดูแลพ่อข้าอยู่ตลอดการสำรวจซากโบราณสถานนั่น ได้เห็นเขาตายและเพื่อรักษาสัญญาที่มีต่อเขาเจ้าจึงนำสร้อยเงินเส้นนี้มามอบให้แก่ข้า นอกจากนี้ด้วยความกล้าหาญจนน่าตกใจของเจ้าทำให้เดบราถึงกับพ่ายแพ้และรักษาชีวิตของข้าเอาไว้ได้ ความสำเร็จครั้งนี้ข้าไม่สามารถแสดงออกมาเป็นคำพูดได้ และยังไม่สามารถชดเชยให้ท่านด้วยสิ่งตอบแทนจำนวนมากมายเท่าใดก็ตาม

แบบนั้นเลย...เขาเข้าใจได้ถูกต้องมากๆ’ อาร์คพยักหน้าพลางยิ้มอย่างยินดี

แต่แล้วท่านลอร์ดก็ส่ายหน้าอย่างรุนแรง

แต่ข้าจะไม่มอบรางวัลให้กับท่าน!

อะไรนะนี่...นี่มันเกินไปหน่อยแล้วเขาพ่นอะไรไร้สาระออกมาวะเนี่ย?’

ที่พ่อฝากฝังให้เจ้าเอาสร้อยเปื้อนเลือดนี้มาส่งให้ข้านั่นหมายความว่าเขาคิดว่าเจ้าเป็นสหายที่แท้จริงข้าไม่อาจเอาของรางวัลที่สกปรกมาทำให้สายสัมพันธ์นั้นต้องแปดเปื้อนเป็นอันขาด ข้าเชื่อว่าพ่อของข้าจะต้องคิดว่าเจ้าเป็นคนแบบนี้แน่นอน

อาร์คส่ายหัวราวกับว่าเขาเป็นบ้าไปแล้ว แต่ถึงจะเป็นอาร์คก็ตาม การที่จะให้เขาพูดออกไปว่า ‘นั่นมันไม่จริง ฉันชอบที่ได้รับของรางวัลพวกนั้นต่างหาก’ นั่นก็ออกจะเกินไปหน่อย ดังนั้นเพื่อลอร์ดน้อยที่กำลังโศกเศร้ากับข่าวการตายของผู้เป็นพ่อ อาร์คเลยพยายามฉีกยิ้มออกมาท่ามกลางความอึดอัดใจ 

ใช่แล้ว...อืม...ดังนั้น...

อาร์คเป็นเพื่อนของพ่อแล้วก็ยังเป็นเพื่อนของข้าด้วย แม้ว่าข้าไม่มีอะไรจะมอบให้ก็ตาม แต่ข้าให้สัญญากับเจ้าที่นี่และตอนนี้ หากเจ้าต้องการความช่วยเหลือจากข้า ข้าก็รีบไปช่วยแม้ว่าเจ้าจะอยู่สุดผืนแผ่นดินก็ตาม!

อ่า...งั้นเหรอ...ขอบคุณนะ

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ให้อะไรฉันเลยซักนิดมีแค่คำพูดปากเปล่านั่นก็เท่านั้น!’

อาร์คพยักหน้าด้วยสีหน้าราวกับกำลังจะร้องไห้

เควสต์ความยากระดับ +นั้นถึงเขาจะเคลียร์มันไปอีกแบบหนึ่งแต่เขาก็ได้รับเควสต์เปลี่ยนอาชีพเขาได้รับแม้กระทั่งค่าประสบการณ์และระดับที่เพิ่มขึ้นมาอีก 1 เลเวล แต่ว่าเขากลับไม่ได้รับของรางวัลสำหรับเควสต์ที่โคตรจะยากลำบากแบบนี้ ถึงแม้เควสต์จะเสร็จสมบูรณ์ก็ตาม เรื่องไร้สาระเส็งเคร็งนี้มันคืออะไรรร!

เขารู้สึกเหมือนตัวเองลูกหลอกลวง แต่เขาก็ไม่สามารถโวยวายออกไปได้เมื่อท่านลอร์ดน้อยนั้นพูดออกมาอย่างตั้งอกตั้งใจ

ไม่อยากจะเชื่อว่าหมอนั่นจะเรียกมันว่ามิตรภาพ ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือลูก พวกเขาก็เข้มงวดจนเกินไป...’ อาร์คบ่นขณะที่เดินลากขาอย่างเหน็ดเหนื่อยออกจากปราสาท

สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่ได้แม้แต่ 1 ทองแดง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกแย่ถึงขนาดอยากระบายความโกรธออกมา

คงจะบอกได้ว่าเขากำลังพยายามชำระล้างจิตใจให้ใสสะอาด?

ทุกคนฟังทางนี้!

ในขณะที่เขาเดินผ่านบริเวณประตู เขาได้ยินเสียงคำสั่งดังกระหึ่ม อาร์คหันไปมองตามเสียงเตือนพลันเห็นทหารจำนวนมากมายที่แต่งเครื่องแบบยืนเรียงรายอยู่บนประตูของปราสาท

ขณะที่เขากำลังสงสัยว่าเกิดเชี่ยอะไรขึ้น ครอสที่เป็นผู้ดูแลทหารป้องกันปราสาทนั้นก็พยักหน้าเล็กก่อนจะตะโกนออกคำสั่งออกมา

ทำความเคารพ!

เหล่าทหารชักดาบออกและชี้ดาบของตนขึ้นไปบนท้องฟ้า

อาร์คยืนมองด้วยสีหน้างงงวยไปชั่วขณะ ก่อนที่จู่ๆ เขาจะรู้สึกเหมือนมีสายตาจ้องมองมาที่เขา ชายหนุ่มจึงมองกลับไปยังป้อมปราการของปราสาท

ที่หน้าต่างนั้น ลอร์ดน้อยมองเขาด้วยใบหน้าที่กระจ่างใสและรอยยิ้มที่อ่อนโยน ดวงตาของเขาสื่ออะไรได้มากมาย อาร์คมองท่านลอร์ดคนใหม่อยู่พักหนึ่งก่อนจะส่ายหัวไปมา

ฉันรู้แล้วว่า NPC เกมนี้จะคนไหนๆ ก็ทื่อมะลื่อเข้มงวดเกินไปซะหมด

ใบหน้าที่บอกบุญไม่รับของอาร์คปรากฏรอยยิ้มขณะที่เดินผ่านทหาร

แสงแดดที่ส่องกระทบกับบริเวณริมใบหูของเขานั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น สายลมที่อ่อนโยนสดชื่นโชยพัดผ่านร่าง

ที่จริงแล้ว...มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่อะไรหรอกนะ

ขณะที่อาร์คเดินออกไปอย่างสบายใจ บรรดาผู้เล่นที่รวมตัวกันออกมาจากหุบเขาของหมู่บ้านเริ่มต้นต่างเห็นเหตุการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้นนี้พลางคิดว่ามันอาจจะเป็นอีเวนท์พิเศษอะไรบางอย่าง...




***End of Chapter***





1 ความคิดเห็น: