วันอาทิตย์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2559

เล่ม 1 ตอนที่ 05 : การแก้แค้นของไวเคานต์ฮาเวสไตน์





            โลกใหม่...แผ่นดินอันยิ่งใหญ่ที่ซึ่งเต็มไปด้วยแสงสว่างอันสงบสุขราวกับได้รับพรจากพระผู้เป็นเจ้า
          ทว่าบนเส้นทางที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังประวัติศาสตร์นั้นกลับถูกสลักเสลาด้วยเลือดและความรุนแรง
มันเป็นช่วงเวลาที่สับสนอลหม่านก่อนประวัติศาสตร์ที่โลกใหม่จะบันทึก ในอดีตอันยาวนานจนไม่มีผู้ใดจดจำถึงมันได้
เผ่าพันธุ์ต่างๆ นับพันต่างแบ่งแยกออกเป็นฝักฝ่าย และได้สร้างสงครามที่ไม่มีวันจบสิ้นขึ้นมา เลือดถูกล้างด้วยเลือด ศพหนึ่งถูกแทนด้วยอีกหลายศพ สิ่งที่หยุดความปั่นป่วนนี้ได้กลับไม่ใช่พลังแห่งความชอบธรรม มันคือความชั่วร้ายเกินกว่าจะหาสิ่งใดมาเปรียบได้
พวกปีศาจที่ถือกำเนิดขึ้นไม่ได้แยกแยะความแตกต่างของเผ่าพันธุ์ใดๆ มันทำร้ายบรรดาผู้คนด้วยพลังอันยิ่งใหญ่และย้อมผืนดินด้วยเลือดสีดำ
สงครามการต่อสู้ที่เกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อยก่อนที่ปีศาจร้ายอย่างแท้จริงได้ถือกำเนิดขึ้น ผู้คนที่รอดชีวิตต่างตัวสั่นงันงกด้วยความหวาดกลัวและความสับสนวุ่นวายที่ประดังประเดเข้ามา มันเป็นจุดเริ่มต้นที่เรียกว่า ‘ศตวรรษแห่งความมืดมิด’ (Dark Century)
ราวกับว่ามันเป็นกฎเกณฑ์ของโลกที่มีความดำทมิฬมืดมิดเท่าใดก็จะมีแสงสว่างที่สดใสเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นเมื่อสถานการณ์สงครามการต่อสู้กับปีศาจนั้นถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดก็ปรากฏกลุ่มคนที่นำพาแสงสว่างและความมีชีวิตชีวาขึ้นมาท่ามกลางกลียุคนั้น
ชื่อของวีรบุรุษทั้ง 7 คนนั้นได้ถูกลบเลือนหายไปจากประวัติศาสตร์
สามคนในนั้นเป็นมนุษย์ส่วนคนอื่นๆเป็นคนแคระ เอลฟ์ และออร์ค เหล่าผู้คนต่างเรียกวีรบุรุษที่แข็งแกร่งราวกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้ว่าเมบัน (Maban)
ที่ใจกลางของผืนดินพวกเขากลายเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่ง จากนั้นเสียงครวญครางก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงตะโกนกู่ร้องประกาศชัยชนะ พวกเขาได้แกะสลักรูปลักษณ์ของวีรบุรุษทั้ง 7  ทีละคนเพื่อบันทึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่ที่พวกเขาได้ต่อสู้และเอาชนะปีศาจได้สำเร็จ
เมื่อปีศาจได้หายตัวไป วีรบุรุษทั้ง 7 ต่างพูดถึงสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ข้าต้องการแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์และกว้างขวาง
วีรบุรุษผู้เป็นมนุษย์ทั้ง 3 ได้กลายเป็นกษัตริย์แห่งโลกใหม่
ข้าต้องการป่าที่เต็มไปด้วยพลังแห่งชีวิต
สำหรับข้านั้นต้องการเปลวไฟที่ร้อนแรงและก้อนหินที่แข็งแกร่ง!
บึงชื้นที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้งกว้างใหญ่สำหรับชั้น
เอลฟ์ได้รับสิทธิ์ในการครอบครองป่า คนแคระได้ครอบครองใต้ผืนดิน ส่วนออร์คนั้นได้ผืนดินที่รกร้างว่างเปล่า
สายตาของพวกเขาต่างจ้องมองกันและกัน
บรรดาวีรบุรุษแห่งเมบันต่างพูดด้วยรอยยิ้มขมขื่น
ข้าหวังว่าจะได้เห็นสิ่งที่พวกเจ้าทำออกมาจากหัวใจมากกว่าเพราะคำสาบานเลือดที่ได้ทำเอาไว้
คำสาบานนั้นจะถูกเก็บเอาไว้เสมอ
แค่นั้นก็เพียงพอแล้ว
วีรบุรุษเมบันพูดคำเหล่านั้นและหายตัวไป
วีรบุรุษทั้ง 6 คนที่กลายเป็นกษัตริย์ได้สร้างโลกใหม่ในปัจจุบัน หลังจากนั้นกว่า 200 ปี โลกใหม่ก็มาถึงยุคทองและเต็มไปด้วยความเจริญก้าวหน้า
แต่ในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงความเจริญรุ่งเรือง
วันเวลาได้ผ่านพ้นไป คำปฎิญาณแห่งสายสัมพันธ์ของวีรบุรุษทั้ง 6 คนที่มีร่วมกันได้จางหายไปอย่างช้าๆ ระยะเวลา 200 ปีเป็นช่วงเวลาซึ่งนานพอจะลืมความหวาดกลัวและเกียรติยศในอดีต
คำสาบานที่แตกแยกจนกลายเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ได้กระจายไปตามทางที่ทุกคนจะได้เห็นมัน

***

อืม...ตอนนี้ฉันควรจะใส่สิ่งนี้เข้าไปดีมั้ยนะ?” อาร์คหยิบสมุนไพรใส่เข้าไปในหม้อ
หลังจากนั้นของเหลวที่อยู่ในหม้อกลายเป็นสีแดงหยุ่นๆ คล้ายกับพุดดิ้ง
อาร์คมองพุดดิ้งด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เขาหลับตาปี๋ก่อนจะใช้ช้อนตักพุดดิ้งขึ้นมากิน ความรู้สึกของกระเพาะที่วูบโหวงกลายเป็นเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงานที่หลั่งไหลออกมา

คุณได้สร้าง ‘พุดดิ้งเพื่อสุขภาพ’ ด้วยทักษะการทำอาหารเพื่อความอยู่รอด ความอิ่มได้รับการเติมเต็ม 100และภายใน 10 วินาทีจะฟื้นฟูพลังชีวิต 200 จุด
ภายใน 10 นาทีความความแรงในการโจมตีกายภาพและพลังกายเพิ่มขึ้น 2 จุด พลังป้องกันเวทย์มนต์และพลังโจมตีเวทย์ลดลง 2 จุด 
(Str+2,Sta+2,Wis-2,Int-2)

เยี่ยม...ครั้งนี้มันสำเร็จ” อาร์คพ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอกแล้วเก็บพุดดิ้งใส่กระเป๋า
หลังจากที่เขาเดินทางออกจากหมู่บ้านฮารัน ชายหนุ่มก็ตั้งใจเดินออกจากถนนเข้าไปในป่า ซึ่งในความเป็นจริงผู้เล่นที่ออกจากหมู่บ้านเพื่อไปยังปราสาทแจ็คสันส่วนใหญ่นั้นจะอยู่ในระดับ 15
แน่นอนว่าถ้าคุณได้ดูค่าสถานะในหน้าต่างข้อมูลของอาร์คที่มีระดับมากกว่าเลเวล 10 แต่ก็ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าผู้เล่นคนอื่นๆ เลยทำให้เขารู้สึกไม่ค่อยสบายใจเท่าใดนัก
เลเวลในเกมนั้นเป็นตัวเลขที่แสดงถึงความเป็นจริงในเกม ยิ่งมีเลเวลต่ำแค่ไหนนั่นหมายความได้ว่าเขาอ่อนแอมาก
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาต้องจัดการไวลดด๊อกและหมาป่าที่เห็นทุกตัวให้เรียบร้อยก่อนที่จะเข้าไปเก็บของในป่า หลังจากที่เขาฆ่าไวลดด๊อกและหมาป่าไปมากกว่า 200 ตัว อาร์คก็มีระดับถึงเลเวล 16 ซึ่งต้องขอบคุณดาบและชุดเกราะที่โทรมจนถ้าเขาเผลอไปจับมันอาจจะบุบบี้แหลกสลายไปเลยก็ได้
ฉันควรจะเรียนทักษะซ่อมของถ้าถึงปราสาทแจ็คสัน
ถ้าอุปกรณ์ล้ำค่าที่เขาได้รับเกิดพังขึ้นมา มันคงจะต้องไม่ใช่แค่นอนไม่หลับไปหลายวันแน่ๆ
อาร์คเปลี่ยนชุดเกราะของเขาไปใส่เสื้อผ้าที่ทำจากหนังสัตว์แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตารวบรวมพืชผักใบหญ้าอย่างขะมักเขม้น เขาตั้งใจจะใช้โอกาสนี้ในการเพิ่มทักษะการทำอาหารของเขา
ตอนแรกเขาคิดจะลบทักษะหลังจากเห็นอาหารไม่มีประโยชน์ที่สร้างออกมา และตั้งใจจะเรียนการทำอาหารแบบธรรมดา แต่หลังจากที่จัดการกับปีศาจหนูแล้วเขาก็รู้ถึงประโยชน์ของการทำอาหารเพื่อความอยู่รอด
ฉันสามารถใช้มันเป็นยาพิษหรืออาหารก็ได้
ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามคิดที่จะปรับสูตรด้วยตัวเองและพยายามมากขึ้น แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
การทำอาหารเพื่อความอยู่รอดไม่ใช่การปรุงอาหารแบบธรรมดา เขาไม่ได้แค่ผสมส่วนประกอบง่ายๆ ลงไปแต่เขาต้องสร้างผลลัพธ์ของอาหารนั้นๆ ด้วย ถ้าหากเอาส่วนผสมมารวมกันแล้วไม่เข้ากันมันก็จะเกิดการระเบิดแล้วส่วนผสมทั้งหมดก็จะหายไป
ในที่สุด หลังจากพยายามมากกว่าหนึ่งร้อยครั้ง อาร์คก็ทำอาหารได้สำเร็จถึง 15 สูตร ซึ่งรวมไปถึงซุปพิษหอมหวนด้วย นอกนั้นสูตรที่ทำออกมาได้น่าใช้ก็มี พริกปรุงรส ชาสมุนไพรสดชื่น และที่สำเร็จล่าสุดคือ พุดดิ้งเพื่อสุขภาพ (น่ากินทั้งนั้น?)
พริกปรุงรสนั้นมีกลิ่นฉุนแรงมาก ผลของมันที่แสดงชั่วคราวคือ เพิ่มความแข็งแกร่ง 10 จุด (Str+10) แต่หลังจากที่การแสดงผลหายไปผู้เล่นจะตกอยู่ในสภาวะมึนงงหลายนาทีจึงเป็นอาหารที่อันตรายเป็นอย่างมาก อาร์คที่กินอาหารชนิดนี้แล้วไปสู้กับหมาป่าห้าตัวทำเอาเขาเกือบไม่รอด
ส่วนชาสมุนไพรสดชื่นนั้นใช้ฟื้นฟูมานาซึ่งมันมีรสชาติอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อ อาร์คต้องทำมันบ่อยๆ เพื่อเอาไว้ดื่มในการเดินทางของเขา
การที่เขาได้ทำสิ่งที่ดูเหมือนไม่มีประโยชน์จนถึงตอนนี้เพราะเขาได้ต่อสู้กับพวกหนู ทักษะของเขาเลยเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้เขายังได้รับสกิลใหม่ถึง 2 สกิล


สกิลติดตัว
เชี่ยวชาญในการใช้ดาบ (ระดับผู้เริ่มต้น : 26/100) คุณไม่ได้รับบทลงโทษในการใช้ดาบเป็นอาวุธ

การต่อสู้ระยะประชิด (ระดับผู้เริ่มต้น : 24/100) เมื่อใดก็ตามที่คุณต่อสู้ด้วยมือเปล่า พลังโจมตี ความแม่นยำ และการหลบหลีกของคุณจะเพิ่มขึ้น

การทำอาหารเพื่อความอยู่รอด (ระดับผู้เริ่มต้น : 22/100) คุณสามารถทำอาหารด้วยส่วนผสมที่ได้จากธรรมชาติ

ทรหด (ระดับผู้เริ่มต้น : 27/100) เมื่ออยู่ในภาวะวิกฤต พลังโจมตีและความคล่องแคล่วจะฟื้นคืนและเพิ่มขึ้น

หาอาหาร (ระดับผู้เริ่มต้น : 29/100) สามารถรวบรวมส่วนผสมที่ใช้ทำอาหารจากธรรมชาติได้

สกิลใช้งาน
พยาบาล (ระดับผู้เริ่มต้น : 21/100) ให้ความหวัง พลังงาน และความกล้าหาญแก่ผู่ป่วย [ใช้มานา : 10]

จิตวิญญาณแห่งแมว (ระดับกลาง : 103/300) สร้างความหวาดกลัวให้กับหนูและมอนสเตอร์ขนาดเล็ก และหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน – พลังโจมตี ป้องกัน และกำลังใจในการต่อสู้ลดลงอย่างรวดเร็ว [ใช้มานา : 100]

สกิลใช้งาน
พยาบาล (ระดับผู้เริ่มต้น : 21/100) ให้ความหวัง พลังงาน และความกล้าหาญแก่ผู่ป่วย [ใช้มานา : 10]

จิตวิญญาณแห่งแมว (ระดับกลาง : 103/300) สร้างความหวาดกลัวให้กับหนูและมอนสเตอร์ขนาดเล็ก และหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมัน – พลังโจมตี ป้องกัน และกำลังใจในการต่อสู้ลดลงอย่างรวดเร็ว [ใช้มานา : 100]

ระบุส่วนผสม (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลติดตัว) สามารถยืนยันคุณสมบัติของส่วนผสมของอาหารที่ได้จากทักษะการค้นหา รู้จักสิ่งที่ใช้ทำอาหารมากขึ้นและไม่ทำให้ส่วนผสมเกิดความเสียหาย

ร่างกายที่ไม่ย่อท้อ (ระดับผู้เริ่มต้น : สกิลติดตัว) เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างอันตราย คุณจะได้รับความอดทนในการเผชิญหน้ากับมัน
การป้องกันอันยอดเยี่ยมจะเปล่งประกายมากขึ้นในสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ป้องกันในฉับพลัน สามารถหลบหลีกแรงกระแทกจากระเบิดเพิ่มขึ้น 30ความสามารถในการฟื้นฟูสถานะเพิ่มขึ้น 5%


การระบุส่วนผสมนั้นดูเหมือนจะเป็นทักษะที่เพิ่มเข้ามาจากทักษะทำอาหารเพื่อความอยู่รอด แต่ไม่ว่ายังไงการรู้เกี่ยวกับส่วนผสมที่เก็บมาว่าเป็นพิษหรือไม่ก็เป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะมันทำให้เขาสามารถลดความเสี่ยงที่จะทำมันออกมาล้มเหลวได้น้อยลง
ที่เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ก็คือทักษะ ‘ร่างกายที่ไม่ย่อท้อ’ หลังจากที่กลั้นใจเขาหลับตากินอาหารที่เป็นอันตรายจากทักษะการทำอาหารฯ ไปร้อยกว่าอย่างก็ทำให้ร่างกายของเขาเริ่มปรับตัวอดทนต่อต่อผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ
อาร์ครู้สึกพอใจกับมาก
ตอนนี้ฉันได้ส่วนผสมที่ใช้ทำอาหารพอแล้ว ฉันควรจะเดินทางต่อซะที
ชายหนุ่มแบกกระเป๋าขึ้นแล้วเริ่มเดินทางต่ออีกครั้ง
ถึงแม้ว่าโลกแห่งความเป็นจริงเป็นช่วงเวลาเช้ามืดแต่ในโลกใหม่ก็เป็นเวลาเช้าเช่นเดียวกัน
อาร์คที่แบกกระเป๋าใบโตเดินผ่านป่านั้นรู้สึกถึงสายลมเย็นที่ปะทะกับใบหน้า เขาสูดกลิ่นต้นไม้ใบหญ้าเข้าไปเต็มปอดและมันก็ได้ชะล้างเรื่องราวต่างๆ มากมายที่อยู่ภายในอกของเขา
ถึงแม้จะมีหลายครั้งที่เขาขบคิดและรู้สึกประหลาดใจในโลกใหม่ที่มีความแตกต่างจากเกมทั่วๆ ไปเป็นอย่างมากตามชื่อ ‘New world’ ของมัน ซึ่งก็นับว่าเป็น ‘โลกใหม่’ อย่างแท้จริง
แม้แต่ประสบการณ์ของเขาก็ยังมีถึงไม่ 1 ใน 100 ของโลกใหม่
อาร์คได้รู้ความจริงนี้หลังจากที่เขาข้ามเนินเขาไป
โอ้...!” เขาเผลออุทานออกมาอย่างลืมตัว
ที่ราบซึ่งทอดยาวราวกับไม่มีที่สิ้นสุดนั้นถูกตัดผ่านด้วยป้อมปราการอันสูงตระหง่านเสียดฟ้า ถึงแม้ว่ามันจะถูกสร้างด้วยหินสีดำแต่กลับสวยงามจนน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไม NPC ในหมู่บ้านฮารันถึงบอกว่ามันเป็นปราสาทแจ็คสันแทนที่จะเป็นเมืองใหญ่แห่งหนึ่งในโลกใหม่นี้
ไม่อยากจะเชื่อเลย นี่มันยังไม่ใช่เมืองใหญ่อีกเหรอ แสดงว่าต้องมีเมืองที่ใหญ่โตยิ่งกว่านี้สินะ?’ หลังจากที่เขาคิดแบบนี้ หัวใจของเขาก็เต้นรัวราวกับกลับเป็นเด็กอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม เขาได้ออกมาจากเขตของผู้เล่นใหม่มายังเมืองที่แท้จริงเสียที
เมื่ออาร์คเดินเข้าไปในปราสาท มันกลับดูไม่สวยเท่าที่คิดไว้เหมือนที่เห็นจากด้านนอก แต่ภายในตัวปราสาทนั้นกลับเต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา
ขณะที่เขาได้มาถึงที่นี่ ผู้เล่นบางคนก็มีระดับเลเวลประมาณ 50-60 แล้ว จำนวนกลุ่มคนที่ยืนออกันเต็มถนนนั้นเทียบกับที่อยู่ในหมู่บ้านฮารันไม่ได้เลยสักนิด ซึ่งสาเหตุก็มาจากดันเจี้ยนจำนวนมากบริเวณรอบปราสาทที่ยังไม่ถูกสำรวจนั่นเอง
ใครที่อยากอยู่ด้วยกันแบบอบอุ่น สบายๆ เข้ากิลด์ฮาเดสสิครับ
ถ้าพวกนายเป็นนักรบกล้าหาญ อยากมีประสบการณ์ในสนามรบ มาที่กิลด์ขวานดำสิ!
ขายของได้ราคาดี แต่ถ้าซื้อที่นี่ได้ถูกสุดๆร้านพ่อค้านุคเองจ้า...
ใครอยากได้ลูกจ้าง ติดต่อที่ชั้นได้เลย
เขาได้ยินเสียงตะโกนจากทุกทิศทาง มีบอร์ดประกาศข่าวและซื้อขายของอยู่ทุกมุมถนน นอกจากนี้ยังมีใบปลิวของปาร์ตี้ต่างๆ อยู่บนนั้นเต็มไปหมด
บรรดาร้านค้าแผงลอยต่างวางไอเท็มเรียงรายอยู่เต็มพื้นจนยากที่จะเดินผ่านบริเวณนั้น หลังจากที่ใช้เวลาอย่างเงียบสงบในหมู่บ้านฮารัน อาร์คก็กลายเป็นพวกบ้านนอกเข้ากรุงอย่างไม่ตั้งใจและปรับตัวได้อย่างยากลำบาก
นอกจากดันเจี้ยนแล้ว สิ่งที่ทำให้ปราสาทแจ็คสันแห่งนี้คึกคักก็คือ NPC เปลี่ยนอาชีพและ NPC ที่เกี่ยวข้องกับกิลด์ต่างมาอยู่ที่นี่กันจนหมด
กิลด์เป็นสิ่งที่สำคัญมากในเกม
ถ้าผู้เล่นเริ่มต้นมารวมกันเป็นจำนวนมาก พวกเขาอาจจะได้รับข้อมูลต่างๆ เพิ่มมากขึ้นและมันจะได้รับประโยชน์มากเมื่อเขาผ่านเควสที่ยากๆ นั่นคือเหตุผลที่ตัวแทนของทุกกิลด์นั้นมีไฟลุกโชนอยู่ในดวงตาเพื่อที่จะหาผู้เล่นระดับสูงให้ได้สักคนก็ยังดี แต่สำหรับอาร์คแล้วเขายังไม่มีความคิดที่จะเข้าร่วมกิลด์ในตอนนี้
เหตุผลแรกคือความหวาดระแวงของเขาต่อผู้เล่นคนอื่นได้ฝังรากลึกชนิดสุดกู่ ส่วนข้อที่สองคือ ถึงแม้บางครั้งเขาจะหลงลืมไป แต่เป้าหมายในการเล่นเกมของเขานั้นแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ สำหรับอาร์คแล้วโลกใหม่ไม่ได้เป็นแค่เกม แต่การทดสอบการจ้างงานที่เขากำลังทำอยู่มันเป็นเรื่องที่ยาก ถ้าหากเขาเข้ากิลด์แล้วต้องเสียเวลาทำสิ่งที่ไม่มีประโยชน์
สิ่งที่ชายหนุ่มสนใจคือการเปลี่ยนอาชีพที่เลเวล 15
มันเป็นสาเหตุหลักๆ ที่ผู้เล่นส่วนใหญ่แห่กันมาที่ปราสาทแจ็คสันหลังจากที่พวกเขามีเลเวล 15
ในโลกใหม่นั้นมี 12 อาชีพที่แตกต่างกันออกไป
นักรบ นักธนู นักเวทย์ โจร นักบวช และก็อื่นๆ ถ้าคุณเดินไปดูรายละเอียดจะเห็นรายละเอียดของสายต่างๆ ในแต่ละคลาสอาชีพ ดังนั้นแล้วอย่างแรกที่เขาต้องทำคือเปลี่ยนอาชีพจาก 2 หรือ 3 คลาสนี้
หน้าต่างสถานะ” 


ชื่อตัวละคร
อาร์ค (Ark)
เผ่าพันธุ์
มนุษย์
อันดับ
ไม่มี
ชื่อเสียง
150
ระดับ
16
อาชีพ
ไม่มี
ฉายา
Mouse Hunter (นักล่าหนู)
เลือด
360
มานา
100
โจมตีกายภาพ
67
คล่องแคล่ว
77 (+2)
พลังกาย
67
โจมตีเวทย์
16
ป้องกันเวทย์
17
โชค
17
เอฟเฟคของอุปกรณ์สวมใส่
ดาบแสงประกาย : ความเร็วในการโจมตี+5
ชุดเกราะหนัง Black Bear Mouse : ความคล่องแคล่ว+2ความต้านทานความหนาวเย็น +20

ถึงแม้เขาจะมีแต้มสถานะที่ค่อนข้างน้อยจนไม่พอที่จะเพิ่มให้ทุกค่าสถานะได้หมด แต่ถ้าหากพิจารณาจากระดับเลเวล 16 ก็ถือว่าค่าสถานะพวกนั้นอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว
ถ้าดูจากสถานะ ค่าป้องกันเวทย์และโจมตีเวทย์ของเขาต่ำเกินไปที่จะเลือกอาชีพสายนักเวทย์ ส่วนอาชีพที่เหมาะสำหรับเขาคืออาชีพที่เกี่ยวข้องกับการต่อสู้ จนถึงขณะนี้อาร์คเพิ่งรู้ตัวว่าเขาอัพค่าสถานะส่วนใหญ่เกี่ยวกับต่อสู้ ทั้งความโจมตีกายภาพ (Str) ความคล่องตัว (Agi) และพลังกาย (Sta)
หรือว่าฉันจะเปลี่ยนคลาสไปเป็นนักรบ(Warrior)ดี?
ถึงแม้จะมีเลเวล 15 เท่ากัน แต่ระหว่างตัวละครที่เปลี่ยนอาชีพแล้วกับที่ยังไม่ได้เปลี่ยนอาชีพนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
ถ้าเขาเปลี่ยนอาชีพ เขาจะได้เรียนรู้สกิลใหม่เฉพาะอาชีพของเขาและก็จะได้โบนัสค่าสถานะที่เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ถ้าเขาทำเควสต์เปลี่ยนอาชีพเขายังจะได้ทักษะย่อยของอาชีพนั้นด้วย
มันเป็นการเปิดประตูไปสู่การเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง!
แต่อาร์คกลับสั่นหัวของเขา
แต่ว่าฉันไม่รู้เกี่ยวกับพวกทักษะพิเศษของอาชีพนี้เลยซักนิด
ถึงแม้ว่าเขาจะได้เห็นสกิลพื้นฐานของแต่ละคลาสมาแล้ว แต่ก็เห็นแค่ชื่อของมันเท่านั้น ซึ่งในแต่ละเกมนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป
ไหนจะรูปแบบของทักษะ ไหนจะทักษะที่เขายังเรียนไม่ได้ถ้ายังไม่เปลี่ยนอาชีพอีก เขาต้องคิดและพิจารณาอย่างรอบคอบ จะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจเลือกทั้งที่ยังไม่รู้รายละเอียดไม่ได้เด็ดขาด
ใน New world นี่ คนที่จะพึ่งพาได้ก็มีแต่ตัวเองเท่านั้น เพราะฉะนั้นฉันต้องเลือกอย่างระมัดระวังที่สุด
ถ้าเป็นเกมอื่นเขาคงจะเปลี่ยนอาชีพไปแล้ว ถ้าไม่ชอบก็แค่เล่นใหม่ แต่สำหรับเกมนี้มีโอกาสเพียงแค่ครั้งเดียวซึ่งเขาต้องคิดให้รอบคอบเข้าไว้
เอาล่ะ...ตอนนี้ปราสาทแจ็คสันเป็นฐานทัพของฉัน ฉันจะคอยจับตาดูผู้เล่นที่เปลี่ยนอาชีพว่ามีทักษะอะไรบ้าง แต่ว่าตอนนี้ฉันก็มีสิ่งที่ต้องทำเหมือนกัน
ชายหนุ่มเปิดประเป๋าของเขาแล้วเหลือบตามองกระดานชนวนแบบผ่านๆ ด้วยความอิ่มอกอิ่มใจ
มันเป็นกระดานชนวนปริศนาที่ปีศาจหนูได้เฝ้าเอาไว้ เมื่ออาร์คมองของชิ้นนี้ทีไร เขาก็รู้สึกมีความสุขไปซะทุกครั้ง ที่เขาได้รับประโยชน์มามากมายก็เพราะมัวตามหากระดานชนวนแผ่นนี้นี่เอง
เขาได้รับโบนัสค่าสถานะ 12 จุด แล้วก็ยังได้เรียนทักษะทำอาหารอย่างฟรีๆ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้รับชุดเกราะกับดาบมาด้วยความยากลำบากเมื่อเทียบกับเลเวลอันน้อยนิดของเขา และมันก็ยิ่งรู้สึกตื่นเต้นเพียงแค่คิดว่าจะได้อะไรจากเควสต์ต่อเนื่องอีก
แต่อย่างแรกที่ต้องทำคือฉันจะต้องไปพบกับไวเคานต์ฮาเวสไตน์ก่อน’ ชายหนุ่มรีบเดินไปยังป้อมปราสาทแจ็คสัน
เจ้าต้องการสิ่งใดอย่างนั้นหรือ?”
อาร์คหวังว่าทหารยามนายนี้คงจะไม่มองเขาที่ใส่ชุดหนังสัตว์ว่าเป็นพวกบ้านนอกหรอกนะ แต่เพราะว่ามันเป็นเกมเสมือนจริงชายหนุ่มเลยคิดว่าทหารคนนี้คงไม่ถึงกับไล่ตะเพิดเขาไปแน่ๆ
ผมมาพบท่านไวเคานต์ฮาเวสไตน์
อะไรนะเจ้าหมายถึงท่านลอร์ดทหารยามถามอย่างสงสัย
ใช่...ถ้าแสดงสิ่งนี้ให้เขาดู เขาต้องอยากพบผมแน่ๆ
อาร์คดึงแผ่นหนังที่เขาพบในถ้ำออกมา
ทหารยามมองเขาอย่างระแวงนิดหน่อยก่อนจะรับแผ่นหนังแล้วเดินเข้าไปในปราสาท หลังจากนั้นประมาณ 10 นาทีทหารยามคนนั้นก็วิ่งออกมาด้านนอกพร้อมกับชายคนหนึ่ง เขาเป็นอัศวินวัยกลางคนที่มีหนวดเครารกครึ้มบนใบหน้า เมื่อดูจากชุดเกราะโบราณคร่ำครึอาร์คก็คิดว่านี่คงไม่ใช่ไวเคานต์ฮาเวสไตน์ที่เขาตามหาแน่ๆ
อัศวินวัยกลางคนผู้นั้นแนะนำตัวเองว่าชื่อ ครอส เขาเป็นผู้ดูแลทหารที่ป้องกันปราสาทแห่งนี้ เมื่ออาร์คแนะนำตัวเองอย่างสั้นๆ ครอสก็รีบถามด้วยน้ำเสียงร้อนรนทันที
เอาล่ะอาร์ค เจ้าเป็นคนพบแผ่นหนังนี้ใช่มั้ย?”
ใช่...เป็นผมเอง
ถ้าอย่างนั้นเจ้าคงเจอสิ่งของแปลกๆ ที่อยู่ใกล้ๆ กันแถวนั้นด้วยสินะ?” ครอสถามต่อ
อาฮะ ผมเจอมัน
ข้าไม่รู้ว่าจะกล่าวว่านี่เป็นคำอวยพรของพระเจ้าหรือปีศาจกำลังเล่นตลกดี
คุณหมายความว่ายังไง?” อาร์คถามอย่างสงสัย
กระดานชนวนนั่นเป็นของท่านไวเคานต์ฮาเวสไตน์ที่ตามหามานานแล้ว แต่ว่าคนที่ส่งไปค้นหากระดานชนวนนั้นกลับก็ไม่มีใครที่นำมันกลับมาส่งคืนได้แม้แต่คนเดียว
กระดานชนวนนี้คืออะไรงั้นเหรอ?”
ข้าก็ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก รู้แค่ว่ามันเกี่ยวข้องกับซากปรักหักพังที่ถูกค้นพบใกล้ๆ  ดินแดนแห่งนี้ ท่านไวเคานต์ตามหากระดานชนวนแผ่นนี้มาตลอดแต่กลับไม่พบเบาะแสของมันแม้แต่น้อยจนท่านล้มเลิกความคิดที่จะตามหามันไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง แต่หลังจากที่ท่านไวเคานต์กับบรรดาอัศวินได้ตัดสินใจออกเดินทางไปยังซากโบราณสถาน กระดานชนวนนั่นกลับเพิ่งมาปรากฏตอนที่ท่านไวเคานต์ได้เดินทางออกไปนี่เอง...
ครอสกุมมือของอาร์คแน่นแล้วก็ขอร้องกับเขา
หากไม่ถือเป็นการรบกวนเจ้ามากจนเกินไป เจ้าช่วยนำกระดานชนวนอันนี้ไปส่งให้ท่านไวเคานต์ได้หรือไม่ถ้าเจ้ารีบตามไปตอนนี้ก็อาจจะยังตามท่านไวเคานต์ได้ทันก่อนที่จะถึงซากสถานที่โบราณแห่งนั้น
ในเวลาเดียวกันนั้น ชื่อเควสต์ของเขาก็อัพเดตขึ้นมา  ความลับของกระดานชนวนปริศนา = ความลับของกระดานชนวนปริศนา II’ และก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับการไปพบฮาเวสไตน์ที่ออกเดินทางไปยังซากโบราณสถานเพื่อส่งมอบกระดานชนวนให้กับเขา
ฮ่าๆๆๆ นี่แหละสิ่งที่ฉันรอคอย
อาร์ครู้สึกเหมือนหัวใจของเขาจะฟูฟ่องจนแทบจะระเบิดออกมา นี่มันตรงตามสูตรชัดๆ ‘เควสต์+ดันเจี้ยน = สมบัติมหาศาล’ มันต้องเกิดขึ้นแน่นอน
ไม่มีเหตุผลที่เขาจะลังเลเลยสักนิด อาร์ครีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วครอสได้มอบม้าพร้อมกับทหาร 2 นายให้กับเขา
ไม่ว่าเขาจะยุ่งขนาดไหน แต่เขาก็ต้องไปจัดการทำธุระต่างๆ ให้เสร็จสิ้นก่อนจะออกเดินทาง อาร์คไปพบช่างตีเหล็กเพื่อซ่อมแซมอุปกรณ์ทั้งหมด แล้วเขาก็พยายามขึ้นไปนั่งบนม้า แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับอาร์คที่ในชีวิตจริงวันๆ ได้แต่ทำงานอยู่กับข้าวของในคลังเก็บสินค้า
ฮึบบ...โอ้วววววววว!” ชายหนุ่มเผลอร้องออกมาเสียงดังขณะที่พยายามปีนขึ้นม้า
ตั้งแต่ที่คิดว่านี่คือเกม เขาก็คิดว่ามันน่าจะทำได้อย่างง่ายๆ แต่เขาก็คิดผิด
ก่อนที่เขาจะขี่ม้าออกไปได้ไม่กี่กิโลเมตร ชายหนุ่มก็กลิ้งตกจากหลังม้าถึงห้าครั้งจนต้องยืนหน้าม่อยอยู่ข้างทหารที่จัดบังเหียนม้าให้กับเขา
เอาตัวของท่านพาดไปบนหลังม้าแล้วแล้วออกแรงตรงต้นขาคร่อมปีนขึ้นไป พวกข้าจะแนะนำการขี่ม้าให้กับท่านเอง” ทหารคนที่จัดบังเหียนกล่าวขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสุดจะอนาถของอาร์ค

***

ไม่ได้เราจะไม่มีการหยุดพักแม้แต่นิดเดียวถ้ายังตามท่านไวเคานต์ไม่ทัน” ทหารคนหนึ่งพูด
 “เราต้องตามไปพบให้ทันก่อนที่ท่านจะถึงซากโบราณสถานนั่น จะมามัวเสียเวลาอยู่ที่นี่ไม่ได้!” ทหารคนที่สองพูดตาม
บ้าเอ๊ย! ฉันคงจะตายก่อนที่จะถึงพอดีน่ะสิ!
อาร์คบ่นอยู่ในใจขณะที่ท้องไส้ของเขากำลังปั่นป่วนจนส่งเสียงร้องจ๊อกๆ ออกมา แต่ทหารเฝ้าปราสาทพวกนั้นก็ไม่สนใจเขาเลยสักนิด ถึงจะมีสกิลใหม่ที่เขาเพิ่งได้รับมา แต่เขาก็ยังต้องอดทนต่อความหิวเป็นอย่างมาก


ทักษะขี่ม้าเพิ่มเป็นระดับ 3 คุณสามารถขี่ม้าได้ง่ายขึ้นเล็กน้อย


ทักษะการขี่ม้านี่เป็นอะไรที่ทำให้อาร์คอยากจะอ้วกออกมามาก (กว่าจะขึ้นมาเป็นระดับ 3 เขาก็ต้องคอยกระตุ้นม้าตลอดเวลา เวลาขี่ก็กระเด้งกระดอนจนแรงสะเทือนทำเอาเขาต้องทนปวดหลังจนหมดท่าไปเลย) แต่พอทักษะการขี่ม้าเพิ่มระดับขึ้น อาร์คก็รู้สึกว่าอาการปวดหลังของเขาเริ่มดีขึ้นเลยบังคับม้าต่อไป หลังจากที่เขาเร่งขี่ม้าจนเหมือนคนบ้าไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ รูปร่างของซากโบราณสถานก็ปรากฏขึ้นตะคุ่มๆ อยู่ไกลๆ
นับว่าเป็นเรื่องที่โชคดีมากที่เขาไม่ได้มาช้าเกินไป อาร์คมองเห็นกลุ่มของอัศวินกำลังจะเข้าไปในซากโบราณสถานนั้นพอดี
อาร์คและทหารทั้งสองนายที่ควบม้าไปจนถึงคนกลุ่มนั้นรีบลงจากหลังม้าและวิ่งเข้าไปหาทันที
นายท่านเราพบกระดานชนวนแล้ว!” ทหารยามคนหนึ่งพูด
เจ้าว่าอะไรนะ?”
คนที่หันหน้ากลับมามองนั้นดูคล้ายเป็นพวกขุนนางอายุประมาณหกสิบได้
เมื่อดูจากผมสีขาวที่ยาวไปถึงไหล่กับใบหน้าที่ดูหมองเหมือนคนขาดออกซิเจน แต่ดวงตาคู่นั้นเหมือนมีประกายวาววับอยู่ข้างใน นี่คงเป็นไวเคานต์ฮาเวสไตน์ที่ตามหาอยู่อย่างแน่นอน
เขาเดินอย่างสง่างามเข้ามาหาอาร์ค
เจ้าเป็นนักเดินทางที่พบกระดานชนวนอย่างนั้นรึแสดงมันให้ข้าดูได้หรือไม่?”
แน่นอนครับ
ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือกระดานชนวนที่ข้าตามหาจริงๆ
เมื่ออาร์คดึงกระดานชนวนออกมา ไวเคานต์ฮาเวสไตน์ที่เหลือบตามองไปยังมัน ร่างกายก็เริ่มสั่นเทา เขาต้องการเวลาอีกมากมายนัก ก่อนที่ขุนนางผู้นั้นจะเบนสายตากลับมามองที่อาร์คอีกครั้งหนึ่ง
เจ้าอาจจะไม่ได้คิดว่าการกระทำของเจ้านั้นเป็นการช่วยเหลือที่ยิ่งใหญ่ต่อข้าเพียงใด ตามกฎนั้นการทำดีย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดี ดังนั้นข้าฮาเวสไตน์ต้องรับผิดชอบตอบแทนต่อความยากลำบากของเจ้าที่ได้ตามหาสิ่งนี้ จงพูดถึงสิ่งที่เจ้าต้องการ ถ้าคำขอนั้นเหมาะสมกับบุญคุณของเจ้า ข้าจะรับฟังคำของของเจ้าทุกอย่าง
ราวกับมีแสงเจิดจรัสสาดส่องมาที่อาร์ค
ในที่สุดเขาก็จะได้รับของรางวัลที่รอมานาน
แล้วเขาก็จะรับฟังทุกอย่างด้วย!
ฉันควรขอไอเทมเวทย์มนต์ดีมั้ยหรือขอเงินดี?’
ขณะที่อาร์คกำลังวุ่นวายใจว่าจะขอสิ่งไหนดี เขาก็รู้สึกติดใจกับบางอย่างที่แปลกๆ หลังจากที่เขาสังเกตถึงกับดักซึ่งซ่อนอยู่ในคำพูดในเควสต์ของฮาเวสไตน์
คำขอที่เหมาะสมกับบุญคุณของฉัน?”
เขาต้องคิดเรื่องนี้อย่างรอบคอบเพราะมันเป็นคำพูดที่คลุมเครือเป็นอย่างมาก
ถึงแม้ว่าไวเคานต์ฮาเวสไตน์จะพูดว่า ‘ทุกอย่าง’ แต่กลับมีเงื่อนไข ‘ที่เหมาะสมกับบุญคุณ’ ในตอนท้ายนั้น นั่นหมายความว่ามันจะต้องมีการจำกัดสิ่งตอบแทนที่มีค่ามาก แต่บุญคุณที่เขาได้ทำต่อไวเคานต์นั้นไม่ได้อยู่ในรูปตัวเลข ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่รู้ว่ามีการกำหนดสิ่งตอบแทนไว้ขนาดไหน แล้วใช้อะไรเป็นตัววัดว่าเป็นของที่มีค่ามาก?
นี่มันยากชะมัด!’
อาร์คเปิดหน้าต่างเควสต์ขึ้นมาตรวจสอบ เควสต์นี้เป็นความยากระดับ G จากประสบการณ์ของเขาที่ผ่านมา ที่ระดับความยากนี้เขาจะได้รับค่าตอบแทนมากสุดเพียง 1 เหรียญทองหรือได้รับไอเทมแค่นั้นเอง
นี่คือทั้งหมดที่ฉันจะได้รับจากเควสต์นี้งั้นเหรอ?’
ความรู้สึกตื่นเต้นในตอนแรกได้เปลี่ยนเป็นความตกใจ
กว่าจะได้กระดานชนวนมาเขาต้องฆ่าหนูหลายร้อยตัวแล้วไหนยังที่ตายเพราะปีศาจหนูอีก นอกจากนี้ยังต้องรีบควบม้าตามฮาเวสไตน์มาจนหลังแทบหัก แต่ว่าจะได้รับแค่ 1 เหรียญทอง?
ยังมีคำถามอื่นมากมายที่เกิดขึ้นภายในใจของอาร์ค
ที่ฉันเอากระดานชนวนออกมานี่คือเควสต์มันจบแล้วจริงๆ ใช่มั้ยแต่ทำไมผู้ดูแลทหารถึงต้องส่งฉันมาที่นี่เขาใช้แค่ทหารเอามาส่งก็ได้ ทำไมเควสต์ถึงบอกให้มาพบฮาเวสไตน์ แต่ว่ามันก็ไม่มีอะไรที่เขียนเกี่ยวกับการมอบกระดานให้เขาเลยนี่ ใช่แล้ว...นี่ต้องเป็นเควสต์ย่อย!’
ในที่สุดหลังจากหาข้อสรุปมามากมาย อาร์คก็มั่นใจว่ามันเป็นเควสต์ย่อยที่เกี่ยวข้องกับกระดานชนวนและมีรูปแบบในการรับรางวัลที่แตกต่างกันออกไป
หลังจากครุ่นคิด อาร์คก็เงยหน้าขึ้นตอบ
สิ่งที่ผมต้องการคือการเข้าไปข้างในซากโบราณสถานนั่นด้วยครับท่านไวเคานต์
ว่าอะไรนะเจ้าทำอย่างนั้นไม่ได้!” ฮาเวสไตน์ที่ได้ยินคำพูดของอาร์ครีบโพล่งขึ้นมาทันที
ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นตั้งแต่ที่ผมนำกระดานชนวนมายังซากปรักหักพังแห่งนี้ ผมก็คิดว่าตัวเองน่าจะมีคุณสมบัติพอ หรือว่าท่านไวเคานต์จะไม่ทำตามคำสัญญาที่บอกว่าจะมอบสิ่งตอบแทนที่เหมาะสมกับบุญคุณของผมกัน?”
เจ้าไม่รู้หรอกรึข้าพูดเพื่อตัวเจ้าทั้งนั้น ซากโบราณสถานแห่งนี้ไม่ได้เป็นสถานที่ธรรมดาแต่ว่ามันเป็นรังที่ปีศาจได้จุติขึ้นมาและกบดานอยู่ภายใน ข้าไม่สามารถพาเจ้าที่เป็นเพียงคนธรรมดาเข้าไปยังสถานที่แห่งนั้นได้!
หรือว่าคุณจะยกเลิกคำสัญญาที่ให้กับผมไว้?” อาร์คพูดเสียงแหลมปรี๊ดกดดันฮาเวสไตน์ด้วยใบหน้าถมึงถึง
การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับ NPC นั่นคือหนึ่งในกฎเหล็กของอาร์ค แต่ว่าก็มีข้อยกเว้นถ้าหากเขาจะได้รับผลประโยชน์ที่มากกว่า
มีหลายวิธีที่จะเพิ่มค่าความสนิทที่ลดลง แต่ไม่มีทางที่เขาจะได้รับไอเทมกลับคืนถ้าล้มเหลวนี่เป็นสิ่งที่เขาเชื่อมาตลอด ไม่ว่าจะเป็น NPC ที่เป็นลอร์ดหรือไวเคานต์ ถ้ามันจำเป็นเขาก็ต้องปะทะกันซึ่งๆ หน้าเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ที่ควรได้
เจ้านี่มัน...จริงๆ อุ๊บ...แค่กๆ
ฮาเวสไตน์ที่จ้องอาร์คอยู่ถึงกับทรุดตัวลงนั่งชันเข่าพร้อมกับอาเจียนเป็นเลือดออกมา
ท่านลอร์ด!
บรรดาทหารรีบวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน แต่คนที่กระโจนเข้าไปช่วยเหลือฮาเวสไตน์ที่ไวกว่าพวกเขาก็คืออาร์คนั่นเอง
กรุณาปล่อยให้เขาอยู่กับผม ผมมีประสบการณ์ในการดูแลคนป่วย” เขาใช้สกิลพยาบาลอย่างรวดเร็ว สีหน้าของฮาเวสไตน์กลับมามีสีเลือดอีกครั้ง
อาร์คพูดพลางยิ้มให้กับคนที่เขากำลังดูแลอยู่ “ดูเหมือนว่าคุณจะป่วยหนักเลยนะ การที่จะสำรวจโบราณสถานนั่นด้วยร่างกายแบบนี้...แล้วก็คงจะไม่มีคนที่รู้เรื่องการดูแลคนป่วยอยู่ที่นี่จริงๆ หรอก
ข้าไม่ต้องการผู้ดูแล หรืออะไรก็ตาม แค่กๆ
ไม่มีทาง...จากที่ผมเห็นอาการป่วยของคุณแล้ว คุณไม่สามารถเดินคนเข้าไปต่อสู้ด้วยตัวคนเดียวได้หรอก คุณคงไม่อยากจะกลายเป็นภาระของลูกน้องด้วยทิฐิของคุณหรอกนะ?”
แต่ว่ายังไงก็ตาม...
ได้โปรดให้ผมดูแลเถอะท่านลอร์ด ไม่สิ...คุณจำเป็นที่จะต้องได้รับการรักษา ส่วนผมก็เป็นแค่คนดูแลที่ไม่สามารถให้คนป่วยเดินจากไปได้” อาร์คพูดด้วยสีหน้าเด็ดเดี่ยว
ฮาเวสไตน์ถอนหายใจยาวออกมาอย่างยอมแพ้
เมื่อเสียงดนตรีเป็นจังหวะกลองดังขึ้น อาร์คก็มั่นใจว่าเขาเลือกได้ถูกต้อง


เควสต์ของคุณได้รับการปรับปรุง
ความลับของกระดานชนวน II à ความลับของกระดานชนวน III
คุณจะต้องไปสำรวจซากโบราณสถานกับไวเคานต์ฮาเวสไตน์เพื่อค้นหาความลับของกระดานชนวน
ข้อกำหนดสำหรับเควสต์ที่ล้มเหลว : ถ้าไวเคานต์ฮาเวสไตน์ตาย เควสต์จะถูกยกเลิกโดยอัตโนมัติ

ระดับความยาก : +E


***

โจมตีพวกมัน สลับกันโจมตีมอนสเตอร์ชั่วร้ายนั่น!
โอ้ววววววววววว!
อัศวินกว่า 50 คนต่างตะโกนปลุกขวัญกำลังใจและความกล้าหาญพลางกวัดแกว่งดาบและคทาของพวกเขาต่อสู้กับมอนสเตอร์
ทันทีบรรดากากอยล์และก๊อบลินที่กระโดดมาขวางทาง บรรดานักเวทย์ต่างเรียกพลังเพลิงนรกอินเฟอร์โน่โจมตีใส่พวกมันจนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรง พวกก๊อบลินที่โดนไฟเผาบางส่วนกรีดร้องโหยหวนพลางคลานออกมาจากกองไฟแต่สิ่งที่รอมันอยู่เป็นอย่างแรกคือดาบและคทาที่กำลังรอจังหวะนี้อยู่
ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 10 นาทีมอนสเตอร์ทั้งหมดก็ถูกจัดการลง
อาร์คที่เฝ้าดูการต่อสู้ที่เกิดขึ้นรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก
แข็งแกร่งจริงๆ
เป็นเวลาสองวันแล้วที่เขาเข้ามายังซากโบราณแห่งนี้
ภายในสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความลึกลับซับซ้อนเหมือนเขาวงกต ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแยกความแตกต่างหรือรู้ถึงทิศทางได้ และทุกครั้งที่พวกเขาได้เดินไปรอบๆ จุดที่เป็นมุมต่างๆ เหล่ามอนสเตอร์จำนวนมากก็จะวิ่งเข้ามาจู่โจมพวกเขา แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถต่อกรกับพวกอัศวินไม่ได้อยู่ดี
พวกอัศวินที่ท่านลอร์ดพามาที่นี่ แม้แต่อุปกรณ์ของพวกเขาก็อยู่ในระดับที่แตกต่างจากทหารธรรมดา อัศวินพวกนี้จะใส่ชุดเกราะวาววับและถืออาวุธในมือ ทักษะของพวกเขาต้องอยู่ในระดับที่สูงมากเนื่องจากสามารถป้องกันการโจมตีทุกอย่างด้วยโล่ได้โดยไม่มีแม้แต่บาดแผล และเมื่อใดที่เหวี่ยงดาบออกไปก็จะจัดการศัตรูจนระเบิดอย่างรุนแรง
มันเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นการต่อสู้ของ NPC ระดับสูงซะจนทำให้เขาเริ่มสูญเสียความมั่นใจ
หลังจากจบการต่อสู้ เครื่องหมายก็ปรากฎขึ้นเหนือหัวของเหล่าอัศวินเป็นสัญลักษณ์แสดงว่าระดับของพวกเขาได้เพิ่มขึ้น
นี่พวกเขาเพิ่มระดับขึ้นมาถึงไหนแล้วนะ?’
สำหรับระดับเดิมของ NPC พวกนี้แน่นอนว่าถ้าพวกเขาชนะในการต่อสู้มาหลายครั้งก็จะมีระดับเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไงก็ตาม NPC พวกนี้ไม่ได้รู้ถึงแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องระดับเลเวล ถ้าคุณถามเกี่ยวกับระดับของเขา พวกเขาจะถามกลับว่ามันคืออะไร และถ้าคุณพยายามอธิบายรายละเอียดให้ฟังพวกเขาก็จะโมโห
ในโลกใหม่นั้น ศัพท์เกี่ยวกับระดับ ทักษะ และสถานะเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับพวกเขา ซึ่งคำศัพท์พวกนี้จะใช้สำหรับผู้เล่นเท่านั้น
แม้แต่เวทย์มนต์หรือทักษะที่ช่วยทำให้เขาเห็นหน้าต่างข้อมูลของคนอื่นก็ยังใช้ไม่ได้กับ NPC ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่ใช้ยืนยันได้ว่าพวกเขาเก่งกาจระดับใด แต่ที่แน่ๆ คือพวกเขามีระดับที่สูงกว่าอาร์คมาก
ถ้าฉันอยู่พวกคนพวกนี้ฉันก็ไม่ต้องเสี่ยงตาย
เควสต์ที่ปรับปรุงล่าสุดนั้นเป็น ความลับของกระดานชนวน III ซึ่งมีความยากอยู่ในระดับ +มันเป็นเควสต์ที่เขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเองไม่ว่าเขาจะพยายามยังไงก็ตาม แต่ถ้าอาศัยอัศวินพวกนี้ก็ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นแม้แต่น้อย
ปัญหาของเขาคือสภาพร่างกายของฮาเวสไตน์
หลังจากที่เข้ามาในโบราณสถานแห่งนี้ สุขภาพของฮาเวสไตน์นั้นก็อ่อนแอเป็นอย่างมาก อาร์คที่ได้เรียนรู้ทักษะพยาบาลมานั้นพูดได้เลยว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าจะอยู่ได้อีกนานนัก ถ้าหากฮาเวสไตน์เกิดตายก่อนจบเควสต์ เควสต์ก็จะล้มเหลวและจบลงด้วยการที่เหล่าอัศวินกลับไปยังปราสาทแจ็คสัน
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเควสต์ที่ไม่ต้องต่อสู้ถึงมีความยากที่ระดับ +E
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันต้องช่วยดูแลเขาจนกว่าเควสต์จะเสร็จสิ้น ชิ...นี่มันเป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวดมาก
ขณะที่อาร์คมองฮาเวสไตน์ซึ่งกำลังไออยู่ข้างๆ ก็ทำให้เขารู้สึกว่ามันน่ารำคาญมาก
ถ้าเควสต์ไม่ได้มีเงื่อนไขแบบนั้น เขาจะไม่สนใจเลยว่าฮาเวสไตน์จะตายหรือเปล่า ไม่อย่างนั้นป่านนี้เขาคงได้ร่วมในการต่อสู้ตีมอนสเตอร์จำนวนมากพวกนั้นแล้วก็ได้รับค่าประสบการณ์จำนวนหนึ่งไปแล้ว
แม้แต่อัศวินที่แข็งแกร่งก็ยังเลเวลเพิ่มมากขึ้นถึงจะไม่ได้พักผ่อนเลยสักนิด ด้วยระดับของเขาถ้าโชคดีคงจะเอาชนะมอนสเตอร์ซักตัวหรือสองตัวได้ เขาก็น่าจะได้รับประการณ์จำนวนค่อนข้างมากแล้ว แต่เขาก็ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะถ้าเขาไม่ได้ยืนดูอาการของฮาเวสไตน์เพียงแค่นาทีเดียวก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แค่ก...แค่ก!
คุณจะดีขึ้น อาการเจ็บป่วยนั้นมาจากจิตใจ ถ้าคุณเข้มแข็งมั่นคง คุณก็จะสามารถเอาชนะโรคใดๆ ก็ตามด้วยความกล้าหาญ คุณต้องไม่หมดหวังนะ
ในขณะที่อาร์คพูดไปเรื่อยเปื่อยไปในสิ่งที่เขาไม่ได้เชื่อเลยสักนิดแล้วเขาก็ใช้ทักษะพยาบาล ใบหน้าของฮาเวสไตน์ก็ดูดีขึ้นเล็กน้อย
เจ้าคงได้รับคำของคุณจากข้าสำหรับคำพูดพวกนั้น ร่างกายของข้าอาจจะแข็งแรงขึ้นถ้ามันเป็นโรคธรรมดาอย่างเจ้าว่า แต่สำหรับข้านั้นรู้ตัวดีว่าจิตใจที่เข้มแข็งมั่นคงเพียงใดก็ไม่อาจทำให้ชีวิตของข้ามีความหวังแม้แต่น้อย
คุณกำลังพูดอะไร...” อาร์คทำหน้าเหรอหราเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
มันคือความจริง เพราะว่าโรคของข้าไม่ได้มาจากจิตใจ
คุณกำลังจะบอกว่าคุณรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็นอยู่งั้นเหรอ?”
เจ้ารู้หรือไม่ว่าทำไมข้าถึงมาที่นี่ นำอัศวินมาด้วยร่างกายแบบนี้” ฮาเวสไตน์มองการกวาดล้างมอนสเตอร์ภายในโบราณสถานด้วยความเศร้าใจ
เพราะว่าที่นี่เป็นที่ๆ ปีศาจฆ่าพ่อของข้าและใช้คำสาปทำให้ข้าเป็นโรคยังไงล่ะ
ปีศาจงั้นเหรอคุณช่วยบอกรายละเอียดให้ผมฟังหน่อยได้มั้ย?”
ไหนๆ ก็ไหนแล้วข้าจะเล่าให้เจ้าฟังก็แล้วกัน ตั้งแต่ที่เท้าของเจ้าเหยียบลงบนสถานที่แห่งนี้ เจ้าทราบถึงความเลวร้ายที่เกิดขึ้นหรือไม่ แม้จะผ่านมานานแล้วแต่ภัยพิบัติอันร้ายแรงที่เกิดขึ้นกับปราสาทแจ็คสันนั้นได้ฝังรากลึกในดินแดนแห่งนี้ด้วยโรคระบาดและความอดอยาก
คุณกำลังจะบอกว่าปีศาจเป็นคนทำเรื่องพวกนี้?”
ใช่แล้ว ปีศาจชั่วร้ายที่มาจากดินแดนอันห่างไกลเป็นคนทำเรื่องพวกนี้ บรรพบุรุษของข้าซึ่งเป็นตระกูลแจ็คสันได้รู้ความจริงและรวบรวมทหารไปต่อสู้กับปีศาจแต่ในการระเบิดครั้งสุดท้ายนั้นทำให้ปีศาจหนีไปได้ ตั้งแต่นั้นตระกูลแจ็คสันก็ต้องทุกข์ทรมานด้วยคำสาปของปีศาจ บรรดาลูกหลานของตระกูลแจ็คสันนั้นต่างป่วยตายเมื่อพวกเขาอายุครบ 20
อะไรกันแต่ท่านไวเคานต์ก็...”  อาร์คอ้ำอึ้ง ก็ตาลุงนี่ดูยังไงก็อายุแก่เกินแกงชัดๆ
ฮาเวสไตน์กุมสร้อยคอสีเงินที่หล่นมาอยู่บริเวณหน้าอกของเขาแน่น
เป็นเพราะสิ่งที่บรรพบุรุษคนอื่นได้ทำไว้ แม้แต่บิดาของข้าเองก็พยายามที่จะปลดปล่อยคำสาปของตระกูล และหลังจากนั้นในปีเดียวกันตอนที่ข้าเกิดก็ได้ค้นพบว่าปีศาจที่หนีไปได้หลบมาซ่อนตัวที่สถานที่แห่งนี้ ถ้าฆ่าปีศาจตนนั้นได้คำสาปอันยาวนานนี้ก็จะจบสิ้นลง แต่ว่าสถานที่ซึ่งปีศาจได้ซ่อนตัวอยู่นี้ถูกปิดซ่อนอยู่อย่างแน่นหนาด้วยพลังโบราณ กระดานชนวนที่เจ้าได้นำมาเป็นกุญแจสำหรับใช้เปิดสถานที่แห่งนั้น
ในที่สุดความพยายามอันยาวนาน หลังจากที่พ่อของเขาวางมือจากกระดานชนวน ฮาเวสไตน์ก็ได้รับช่วงต่อ เขาได้นำทหารมาเพื่อค้นหาปีศาจที่ซุกซ่อนอยู่
ฮาเวสไตน์มองไปยังบรรดาอัศวินด้วยสายตาที่ว่างเปล่าราวกับคล้ายจะมองเห็นพ่อของเขาปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางคนพวกนั้น
ครั้งแรกที่ข้าได้ฟังคำพูดจากทหารที่ใกล้จะตาย พวกเขาบอกว่าหลังจากการต่อสู้อันยาวนาน สุดท้ายแล้วบิดาของข้าก็พ่ายแพ้ แต่บิดาของข้าได้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายทำให้ปีศาจตัวนั้นได้รับบาดเจ็บเป็นแผลขนาดใหญ่ จึงทำให้คำสาปนั้นอ่อนแอลงและข้าก็มีอายุจนถึงตอนนี้
เพราะแบบนั้นเลยหมายความว่าที่ท่านไวเคานต์ทุกข์ทรมานแบบนี้เป็นเพราะปีศาจที่อันตรายตัวนั้นเริ่มฟื้นตัวแข็งแรงมากขึ้นสินะ
เป็นอย่างที่เจ้าคิด เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ร่องรอยของคำสาปได้ปรากฏขึ้นในบุตรชายอายุสิบห้าของข้า เจ้าปีศาจนั่นเริ่มแข็งแกร่งมากขึ้น แต่กระดานชนวนก็ได้หายไปพร้อมกับการตายของบิดาข้า สามปีที่ผ่านมาข้าได้พยายามอย่างหนักที่จะค้นหากระดานชนวนแต่ก็ไม่มีประโยชน์เลย ขณะที่ร่างกายของข้าเริ่มเหนื่อยและอมโรคแบบนี้ข้าไม่อาจเสียเวลารอไปนานกว่านี้ได้ ข้าต้องต่อสู้และทำลายประตูที่เต็มไปด้วยพลังโบราณนั่นและจัดการกับเจ้าปีศาจให้ได้” ฮาเวสไตน์ยังคงเล่าเรื่องของเขาต่อไป
ถ้าปีศาจถูกฆ่าตาย โรคของท่านไวเคานต์จะรักษาได้หรือไม่?”
ฮาเวสไตน์ส่ายหน้า 
ไม่...มันสายไปแล้วสำหรับข้า ตอนนี้ถึงจะฆ่าปีศาจได้ข้าก็คงไม่อาจมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้ แต่ข้าไม่อาจให้บุตรชายต้องเจอกับชะตากรรมเช่นเดียวกับข้าได้ หลังจากนั้นเขาก็จะตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับข้าในตอนนี้ – ต่อสู้กับปีศาจเพื่อลบล้างคำสาปของตระกูล คราวนี้...ข้าจะต้องทำเพื่อบุตรชายของข้าบ้างเหมือนเช่นที่บิดาได้ทำเพื่อข้า และข้ายังเชื่อว่ามันจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอนเมื่อเจ้าได้นำกระดานชนวนมามอบให้ข้า นี่จะต้องเป็นพรแห่งพระผู้เป็นเจ้า
อาร์คปาดน้ำตาที่ไหลออกมา (อินจัด)
พ่อทำเพื่อลูกชาย ส่วนลูกชายก็ทำเพื่อลูกชายอีกทอดหนึ่ง พวกเขาพยายามจนถึงวาระสุดท้ายในชีวิต
แน่นอนว่าพวกเขานั้นเป็น NPC ถึงจะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์แต่ก็ไม่ใช่มนุษย์อยู่ดี
ถึงใบหน้าที่สมจริงนั้นจะเป็นเพียงกระแสไฟฟ้าที่ไหลไปตามวงจรก็ตาม
ฮาเวสไตน์มองอาร์คซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ ขณะที่ตัวเขาเองกำลังจะตายและลูกชายก็ต้องจบชีวิตลง นี่คือความเป็นจริงที่ต้องยอมรับ

NPC ส่วนใหญ่นั้นมีความรู้สึกนึกคิดเหมือนมนุษย์จริงๆ มาก มีทั้งคนดี คนเลวทั้งในโลกแห่งนี้และโลกแห่งความเป็นจริงแต่อย่างน้อยที่สุดคือผู้คนที่นี่ได้ไม่ได้เล่นกับความรู้สึกจริงใจของผู้อื่นด้วยการโกหกหลอกลวง
นั่นเป็นสิ่งที่แตกต่างระหว่าง NPC กับผู้เล่น
ท่านไวเคานต์...ผมคิดว่ามันต้องพรแห่งพระเจ้าอย่างแน่นอน
ขอบคุณ
ฮาเวสไตน์พล็อยหลับไปด้วยใบหน้าสบายใจมากขึ้น หลังจากที่อาร์คได้ดูแลเขาด้วยความจริงใจอย่างแท้จริง
พ่อที่พร้อมจะทิ้งทุกอย่างเพื่อลูก
ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าอาย แต่อาร์ครู้สึกว่าพ่อของเขานั้นมีตัวตนอยู่ในตัวของฮาเวสไตน์
ขณะเดียวกันนั้นเขาก็เกิดความเห็นใจต่อฮาเวสไตน์ ถึงเขาจะต้องช่วยฮาเวสไตน์เพราะเควสต์อยู่แล้ว และถ้ามันสำเร็จ คงจะดีกว่าถ้าทำมันด้วยความจริงใจ?
ในแต่ละวันผ่านไปแบบนั้น แล้วอาร์คได้รับข้อความที่เขาไม่เคยแม้แต่จะคิด
อาร์คที่ได้เรียนรู้ทักษะพยาบาลนั้นพบว่ามีการเพิ่มระดับช้าที่สุด ในการพยาบาลคุณยายโจแฮนสันนั้นเขาต้องพยาบาลประมาณสิบครั้ง ซึ่งได้รับค่าทักษะเพียง 20 และหลังจากที่ใช้ทักษะพยาบาลกับฮาเวสไตน์ก็อยู่ที่ 30
แต่ว่ามันกลับพุ่งปรี๊ดขึ้นจนตอนนี้มันอยู่ในระดับกลาง


การดูแลซึ่งเต็มไปด้วยความจริงใจ สกิลพยาบาลได้เพิ่มระดับขึ้น
ทักษะพยาบาล (ระดับกลาง : ใช้งาน) สามารถเพิ่มพลังชีวิตโดยการทำให้ร่างกายและจิตวิญญาณของผู้ป่วยให้ความเกิดสบายใจด้วยความชำนาญและเชี่ยวชาญมากขึ้น
เมื่อใช้กับผู้ป่วย ความแข็งแรงและกำลังใจเพิ่มมากขึ้น 40%

ใช้มานา : 10
*เอฟเฟคโบนัสสกิลพยาบาลระดับกลาง (รักษาจิตวิญญาณ) เมื่ออฐิษฐานอย่างใจจริงให้แก่ผู้ป่วย ผลจากคำภาวนาเล็กๆ น้อยๆ นั้นจะทำให้ค่าสถานะทั้งหมดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้วยความนับถือศรัทธาสามารถต้านทานต่อคำสาปภายในจิตใจ


อาร์คหุบปากที่อ้าค้างของเขา
ไม่ใช่เพราะสกิลที่มีระดับเพิ่มมากขึ้น แต่เพราะเหตุผลของมันต่างหาก
หมายความว่ามันรู้ว่าฉันรักษาไวเคานต์ด้วยความจริงใจรึเปล่าอย่างนั้นน่ะเหรอ?’
ทักษะของเขาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ที่อาร์คเริ่มเป็นห่วงฮาเวสไตน์ด้วยความจริงใจ แต่ไม่ได้หมายความว่าอาร์คได้เปลี่ยนแปลงความคิดที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของทักษะ
แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
โลกใหม่นั้นเป็นระบบที่สแกนสมองและควบคุมตัวละครด้วยคลื่นสมองของผู้เล่น อารมณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็ก็ถูกจับจากคลื่นสมองเช่นเดียวกัน มันจึงมีความเป็นไปได้ที่ระบบจะเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ แต่ว่ามันกลับเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของทักษะ...
ถ้าอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องง่าย
ไม่ว่าจะเป็นค่าความสนิทสนมกับ NPC หรือการเรียนรู้ทักษะให้ได้ระดับสูงสุดถ้าใช้ใจในการทำมันก็จะสามารถทำได้สำเร็จ
มันเป็นหลักการที่เป็นพื้นฐานของความเป็นจริง แต่ใครจะคิดว่าจะเอามาใช้ในเกมกัน?
มันเป็นการค้นพบที่น่าตกใจและตื่นตะลึงกับระบบเทคโนโลยีที่ใช้เป็นอย่างมาก
ตั้งแต่ที่เขาได้ทำเรื่องผิดพลาดในหมู่บ้านฮารัน อาร์คยังคงอยู่ในสถานะที่ห่างไกลจากผู้สมัครคนอื่นๆ แม้ว่าเขาจะได้รับโบนัส 12 จุดจากฉายาพิเศษของเขา แต่ครึ่งเดือนที่เสียไปนั้นทำให้เกิดช่องว่างของความแตกต่างซึ่งทำให้เลเวลของเขาต่ำเตี้ยเรี่ยดินจนไล่ตามคนอื่นได้ยาก
มันคงจะดีมากถ้าพวกเขาแอบงีบหลับเหมือนนิทานเรื่องกระต่ายกับเต่า แต่จะดีกว่าถ้าไม่หวังลมๆ แล้งๆ ไปกับมัน แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะหาวิธีที่จะทำให้เกิดความแตกต่างที่ว่าได้แล้ว
มีอีกหลายระบบในโลกใหม่ ที่ถ้าฉันหาข้อมูลทั้งหมดของมัน พวกเขาจะต้องเลือกฉันแน่ๆ มันไม่ได้เป็นแค่ความฝันที่ห่างไกลอีกต่อไปแล้วใช่แล้ว...คำตอบอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง ไม่ว่าฉันจะตามหลังผู้เล่นเริ่มต้นในเวลาเดียวกันแต่มันก็แค่นั้น ถ้าฉันรู้เกี่ยวกับระบบพวกนี้ก่อนคนอื่นก็จะไม่ตามหลังพวกเขาอีกต่อไป
อาร์คเหมือนได้เห็นความหวังครั้งใหม่
แต่หลังจากนั้นฮาเวสไตน์ก็อาเจียนออกมาเป็นเลือดบ่อยมากขึ้น
ประกายแห่งชีวิตยังคงหลั่งไหลออกมา ร่างกายของเขาเริ่มโทรมจนแทบจะไม่มีใครจำได้ ทุกครั้งที่มันเกิดขึ้นอาร์คจะใช้ทักษะพยาบาลระดับพลางเพื่อเยื้อช่วยชีวิตเขาอย่างขะมักเขม้น
เพื่อการจบเควสต์อย่างสมบูรณ์ เพื่อการเพิ่มระดับทักษะ และเพื่อ NPC ผู้แสนโชคร้ายผู้ซึ่งมีความหวังอันน้อยนิด...


***


ในที่สุดเราก็มาถึง!” ใบหน้าที่ซีดขาวของฮาเวสไตน์ปรากฏสีเลือดขึ้นอย่างยินดี
เป็นเวลา 5 วันแล้วหลังจากที่พวกเขาได้เข้ามายังโบราณสถานแห่งนี้ สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ได้มาถึงจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นประตูหินแกะสลักขนาดใหญ่ที่มีลวดลายซับซ้อน
ปีศาจที่พวกเขาได้ตามหานั้นซ่อนอยู่เบื้องหลังประตูบานนี้
ประตูหินนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอายลี้ลับ ปรากฎรอยด้านหนึ่งบนประตูนั้นซึ่งมีรูปทรงใหญ่พอที่จะวางกระดานชนวนลงไป
ฮาเวสไตน์มองไปทางอาร์คด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ชายหนุ่มเดินไปที่ประตูหินก่อนจะวางกระดานชนวนทาบลงไปยังรอยสลักแล้วกดลง ตอนนั้นเองประตูหินบานนั้นก็เปิดออกมาอย่างช้าๆ
ทุกคนเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ พวกเราจะต้องปกป้องท่านไวเคานต์!
ปกป้องท่านไวเคานต์!
พื้นที่ด้านในนั้นแตกต่างจากตัวโบราณสถานด้านนอกเป็นอย่างมาก กำแพงหินขรุขระและเพดานตะปุ่มตะป่ำเต็มไปด้วยหินงอกย้อยลงมาเหมือนเขี้ยวของปีศาจ มองกวาดตามองแบบกว้างๆ จะเห็นว่าเป็นห้องโถงขนาดใหญ่โตมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ
และเมื่ออัศวินได้เดินมาถึงกลางห้องโถงนั้น บางอย่างก็เกิดขึ้น


มอนสเตอร์ระดับบอส เดบราผู้บิดเบือนความฝัน 
(Twisted Dream Weaver Debra) ได้ปรากฎตัวขึ้น


ปีศาจโผล่ออกมาแล้ว!
อาร์คตะโกนออกมาอย่างตกใจ ในเวลาเดียวกันฝั่งตรงข้ามกับทางเข้าห้องโถงก็มีออร่าสีดำแผ่ออกมาจนสังเกตได้
พวกอัศวินที่ได้ยินคำเตือนของอาร์ครีบยกโล่ขึ้นมาป้องกันทันที แต่เหมือนจะช้าเกินไปเมื่อแรงโจมตีมหาศาลได้กระแทกร่างของพวกเขาปลิวออกไป 3-4 คน
คิคิคิคิ พวกแมงเม่าระวังจะไม่มีเงาหัว ข้าจะทำให้พวกเจ้าต้องคลานมาขอความตาย
ภายในความมืดนั้น สายตาของเขาเห็นร่างขนาดใหญ่ประมาณ 10 เมตร กำลังตรงเข้ามา มันสวมชุดเกราะสีดำและถือดาบอันใหญ่ มีผ้าคลุมไหล่สีแดงยาวไปถึงหลังพัดปลิวสะบัดและเปล่งประกายออร่าสีดำชวนหดหู่ใจ
เดบราที่มีร่างกายเหมือนพายุหมุนเมื่อรวมกับออร่าสีดำ อัศวินผู้กล้าหาญก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก
มะ...มันคือเดบรา!
เดบราผู้บิดเบือนความฝันที่น่ากลัว!
ไม่ต้องกลัวเจ้านี่เป็นมอนสเตอร์ที่ขี้ขลาด เอาแต่ม้วนหางซ่อนอยู่หลังประตูหิน
ฮาเวสไตน์ตะเบ็งเสียงตะโกนออกมาด้วยความกล้าหาญ แต่ไม่เพียงทำให้อัศวินพวกนั้นหันหลังกลับไปสนใจแต่ยังวิ่งเข้าไปหาเดบรา
คิคิคิ้ เจ้าพวกลูกหมาแรกเกิดหน้าโง่!
เดบราอ้าปากของมันแล้วปล่อยลำแสงสีน้ำเงินระเบิดออกมา
เมื่อมันตวัดดาบที่ยาวใหญ่นั้นก็ทำให้ทหาร 3-4 คนระเบิดปลิวออกไป บรรดาอัศวินที่ได้แสดงความแข็งแกร่งขณะที่กวาดล้างมอนสเตอร์ด้านนอกนั้นเมื่อมาอยู่ต่อหน้าเดบราก็กลายเป็นกระจอกงอกง่อยในทันที
ประกายสีฟ้าที่พ่นออกจากปากของมันละลายชุดเกราะและดาบของพวกเขาเรื่อยๆ บรรดาอัศวินต่างล้มลงหลังจากได้รับ 1-2 บาดแผล แต่อัศวินเหล่านั้นก็ยังไม่ยอมแพ้และเข้าไปรุมโจมตีเดบราด้วยดาบ ในขณะที่นักเวทย์ที่อยู่ด้านนอกนั้นใช้สายฟ้าและเปลวเพลิงโจมตีมัน
แสงจากการระเบิดนั้นสว่างไสวติดต่อกันยาวนาน ร่างของเดบราระเบิดขึ้นและโงนเงนเหมือนจะล้มลง
วันนี้เป็นวันตายของเจ้า!
หนึ่งในนักเวทย์ตะโกนขึ้นในขณะที่เขารีบใช้สกิลคอมโบโจมตีมันเข้าไป
จากนั้นก็ปรากฏแสงสีแดงล้อมรอบร่างของเดบร้า เลือดของมันที่ถูกลดไปถึงครึ่งหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนหัวของมัน
ตอนนั้นเองพวกอัศวินก็รีบโจมตีเร็วขึ้น
เลือดของมันยังลดไม่ถึงครึ่งอีกงั้นเหรอ!
มันใกล้จะตายแล้ว รีบๆ ทำให้มันจบ!
กึก!
เจ้าพวกเลว
ดวงตาของเดบรานั้นเปล่งแสงและออร่าสีดำเพิ่มมากขึ้น
อัศวินที่ตกอยู่ภายใต้ออร่าสีดำนั้นมีท่าทีเหม่อลอยเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกดและหลังจากนั้นก็เริ่มทำร้ายตัวเอง
นักเวทย์มันเป็นเวทย์มนต์ล่อลวงใช่มั้ย
ใช่!
นักเวทย์ที่อยู่ด้านนอกระยะของระยะออร่าสีดำนั้นต่างรับร่ายคาถาอย่างรวดเร็ว
ต้านทานการสะกด ชะล้างการสะกด เพิ่มความแข็งแกร่งของจิตใจและการสะกดอื่นๆ คาถาเหล่านี้ล้วนกระจายไปยังพื้นที่รอบๆ แต่บรรดาอัศวินก็ไม่อาจหลุดพ้นจากมนต์สะกดได้ และเริ่มกลายเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงมากขึ้นเมื่อ 3-4 ของพวกเขาถูกจัดการด้วยดาบของเพื่อนตัวเอง
ใบหน้าของนักเวทย์ต่างเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ
คาถาไม่สามารถใช้กับมันได้!
ทุกคนช่วยสงบสติอารมณ์ด้วย ไม่ว่าใครจะเป็นศัตรูของเรา แต่พวกเราต้องได้รับชัยชนะ
ในช่วงสถานการณ์ที่สิ้นหวัง เสียงของอาร์คดังก้องขึ้นในห้องโถง
ดวงตาที่มืดบอดด้วยมนต์สะกดเริ่มคลายตัวออก แล้วสติของพวกอัศวินก็เริ่มกลับมา
มันเป็นพลังจากทักษะพยาบาลของเขา เมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้นอาร์คก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เพราะการโจมตีของเดบรา ขนาดพวกอัศวินโดนไป 2-3 ทียังต้องรีบหามออกออกมาหลังจากโดนโจมตีเข้าขั้นวิกฤตใกล้ตาย ยิ่งถ้าเลเวล 16 แบบอาร์คเกิดโดนมันโจมตีแค่ถากๆ ก็คงตกอยู่ในสภาวะวิกฤตแล้ว ดังนั้นแล้วสิ่งที่เขาทำได้ก็คือใช้ทักษะพยาบาลฮาเวสไตน์จากทางด้านหลัง (แมนโคตรๆ)
แต่สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนไปเมื่ออัศวินที่ตกอยู่ในมนต์สะกดที่ทำร้ายตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ (เพราะพวกเขาไม่ได้เป็นอัศวินกระจอกๆ ที่ทำความเสียหายร้ายแรงให้กับคนอื่น) ได้กลายมาเป็นคนไข้ของอาร์ค
เมื่อเขาใช้ทักษะพยาบาลผู้ป่วยในระดับกลางพร้อมที่มีเอฟเฟคพิเศษ และผลจากคำภาวนานั้นได้ส่งผลให้พวกเขาสามารถต้านทานมนต์สะกด ซึ่งเป็นคำสาปที่ใช้กับจิตใจ ทำให้พวกเขาสามารถหลุดพ้นจากสถานะนั้น
ไม่เพียงแค่นั้น ด้วยโบนัสของความแข็งแรงและกำลังใจที่เพิ่มขึ้น 40และ+3 ทุกค่าสถานะย่อมต้องทำให้พลังโจมตีและป้องกันของอัศวินมีมากขึ้น และนักเวทย์ก็สามารถร่ายเวทย์ได้เร็วยิ่งขึ้น
โอ้ววววววววว พลังของฉันเพิ่มขึ้นแล้ว
เราชนะมันได้ล้มเดบรา!!
อัศวินต่างตะโกนปลุกขวัญกำลังใจแล้วพุ่งเข้าไปฟันดาบใส่มัน เดบราแผดเสียงร้องด้วยความโกรธแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
นั่นเป็นเพราะอาร์คไม่ยอมให้ทหารได้พักผ่อน
ได้โปรดรีบยืนขึ้น ชัยชนะอยู่เบื้องหน้าเราแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะเป็นปีศาจ แต่ทุกคนก็ได้ใช้จิตวิญญาณในการต่อสู้มันจะต้องไม่พ่ายแพ้ การต่อสู้ด้วยจิตวิญญาณที่ไม่มีอะไรจะหยุดยั้งได้ ด้วยความกล้าหาญของคุณจะกลายเป็นวีรบุรุษที่ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์อย่างไม่ต้องสงสัย!
ฮา ฮา... แต่พลังกายของฉันมันถึงขีดสุดแล้ว ขอฉันพักผ่อนเล็กๆ น้อยๆ...
รีบออกไปต่อสู้ความกล้าหาญของคุณจะนำเราไปสู่ชัยชนะ!
โอ้ววววววว อา...พลังงานของฉันเต็มปรี่แล้ว มานี่สิเจ้าปีศาจ!
ในขณะที่เสียงของอาร์คดังขึ้น อัศวินที่ล้มลงก็กระโดดขึ้นมายืนแล้วฟาดฟันดาบของเขา
ฉับพลันนั้นอัศวินได้กลับมาต่อสู้กับเดบราราวกับเป็นผีดิบ เลือดของเดบราลดลงอย่างรวดเร็วและเมื่อลดถึง 1 ใน 10 มันก็ชันเข่าลงข้างหนึ่ง แล้วฮาเวสไตน์ผู้ควบคุมอัศวินก็ได้ปีนขึ้นไปบนร่างกายของเดบราแล้วแทงดาบเข้าไปยังลำคอของมัน
ตายซะ เจ้าปีศาจ ย๊ากกกกกกก!
ทันใดนั้นเดบราเหยียดแขนขึ้นและคว้าเข้าที่ลำคอของฮาเวสไตน์
คิคิคิคิ้ รู้สึกทรมานดีมั้ย?”
เดบราค่อยๆ ลุกขึ้นยืนอย่างเชื่องช้า เสียงร้องอย่างตื่นตระหนกของเหล่าอัศวินดังไปทั่วบริเวณ
พลังชีวิต พลังชีวิตของมัน...!
โอ้...พระเจ้า หรือมันจะหมายความว่าไอ้บ้านี่เป็นอมตะ
เดบราสะบัดผ้าคลุมของมันแล้วก็หมุนตัวพริบตานั้นร่างกายของมันก็มีพลังชีวิตเต็ม 100อีกครั้ง
อาร์ตพุ่งตัวของเขาผ่านเหล่าอัศวินที่ยังคงยืนสับสน
ท่านไวเคานต์!
ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นดูเหมือนไวเคานต์จวนเจียนใกล้ตายเต็มทน
ถ้าหากไวเคานต์ตายเควสต์ก็จะล้มเหลว
ฉันหาทางมาที่นี่เพื่อเควสต์ที่ล้มเหลวงั้นเหรอไม่มีทาง!
อาร์ควิ่งเข้าไปหาเดบราพลางเหวี่ยงดาบโจมตีใส่มัน แล้วมันก็โจมตีเขากลับมาตามที่เดาเอาไว้ ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนไปใช้สกิลต่อสู้ระยะประชิดและหลบอย่างรวดเร็วทันที แล้วเขาก็ดึงดาบออกมาแทงใส่มือบอสที่ชั่วช้าตัวนี้อย่างสุดกำลัง
การโจมตีอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกให้เดบราปล่อยฮาเวสไตน์ไว้แล้วถอยออกไป
อาร์ครีบพาเขากลับมาด้านนอกระยะการโจมตีอย่างรีบร้อน
เจ้าเจ้าช่างกล้า!” เดบราตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาหาอาร์ค
ดูนั่นขนาดคนจากดินแดนอื่นยังสู้เพื่อท่านไวเคานต์ด้วยชีวิตของเขา พวกเราก็เช่นเดียวกัน!
ทุกคนปกป้องคนจากดินแดนอื่น!
อัศวินที่แตกตื่นก่อนหน้านี้ถูกกระตุ้นด้วยการกระทำของอาร์ค แต่ตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาจะโจมตีด้วยดาบยังไงก็ตาม ค่าพลังชีวิตของเดบราก็ไม่ได้ลดลงเลย หรือจะพูดให้ถูกก็คือ มันเป็นอมตะ!
เดบราไม่ได้กังวลกับการโจมตีของพวกอัศวินมันเดินออกมาแล้วควงดาบรวดเร็วราวกับฟ้าผ่า
อาร์คยืนอยู่เบื้องหน้าฮาเวสไตน์แล้วยกดาบขึ้นตั้งรับการโจมตี
เปรี้ยง!
เขาถึงกับตะลึงอย่างหนัก พลังชีวิตของเขาลดลงเหลือไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ
ให้ตายสิ ถ้าฉันโดนอีกครั้งนึง มันต้องจบเห่แน่ๆ
สายตาของเขาเต็มไปด้วยความพร่ามัว ในขณะที่เขายกดาบขึ้นมาป้องกันอีกครั้งก็ล้มลงด้วยการแรงโจมตีผ่าอากาศ
ไม่ทุกคนรวบรวมพลังเวทย์เราจะเปิดวาร์ป!!
นักเวทย์ต่างรวบรวมพลังเวทย์ไปยังอาร์คและฮาเวสไตน์
การใช้เวทย์มนต์เปิดวาร์ปให้กับผู้อื่นต้องใช้เวทย์ขั้นสูงถึง 7 วงเวทย์ด้วยกัน แต่ว่านักเวทย์อาจจะร่ายเวทย์ลดลงถ้าใช้แค่ 4-5 วงเวทย์
แต่นักเวทย์ทั้ง 5 นี้จะต้องรวบรวมพลังเวทย์มนต์ของตัวเองด้วย ‘การแลกเปลี่ยนอำนาจแห่งจิต’ จึงจะทำให้วงเวทย์ทั้ง 7 นั้นประสบความสำเร็จ
แสงสว่างส่องวาบขึ้นท่ามกลางความมืดมิด ร่างของอาร์คกับฮาเวสไตน์ถูกส่งไปที่ไหนซักที่
เดบราตวัดดาบฟันลงที่พื้นหลังจากนั้น




*** End of chapter ***



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น